นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยที่เวทีทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงเส้นทางการเมืองของตนเองว่า เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 10 ขวบ สนใจการเมืองต่อเนื่อง โดยได้ติดตามการเลือกตั้งปี 2518 พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งได้ 72 ที่นั่ง แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ จึงตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยภายใต้การนำของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคในขณะนั้น พร้อมกล่าวถึงนายชวน หลีกภัย ว่า เป็นสส.สมัยแรกจากการเลือกตั้งวันที่ 10 มกราคม 2512 และได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ขณะที่เป็นสส.สมัยที่ 2 ซึ่งตนจำได้ดีถึงอุดมการณ์ของท่านในขณะนั้น แม้จะไม่ถูกใจใครหลายคนแต่เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีสองสมัยมีส่วนสำคัญในการกอบกู้วิกฤตที่ประเทศไทยเผชิญอยู่ และหลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ยังคงเป็นนักการเมืองที่ป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองทุกคน ทุ่มเททำงานหนัก ไม่แพ้คนที่เข้ามาใหม่อายุ 20 กว่า ๆ และที่สำคัญทุกสิ่งที่ท่านทำ ท่านทำเพื่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมั่นคงในอุดมการณ์และที่สำคัญที่สุดคือยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต
ตนตัดสินใจเข้ามาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีโอกาสรับใช้ท่านในฐานะหัวหน้าพรรคและหัวหน้ารัฐบาลมาต่อเนื่องยาวนาน ตนไม่เห็นความหวั่นไหว ความท้อถอย ความรู้สึกอะไรที่จะหยุดยั้งความตั้งใจในการทำงานเพื่อประชาชน เพราะฉะนั้นในโอกาสที่ครบ 50 ปีบนถนนการเมืองของท่านนายกชวน หลีกภัย นับจากได้เป็นสส.สมัยแรกเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2512 จึงได้นำภาพท่านนายกชวน ขณะอภิปรายในสภาซึ่งเป็นโปสเตอร์ที่พรรคจัดทำขึ้นในสมัยที่ชูท่านชวนเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกมาให้ลงนาม โดยถือที่เป็นภาพประวัติศาสตร์ 50 ปีบนเส้นทางการเมืองของชวน หลีกภัย พร้อมอ้อนประชาชนขอว่า ทุกหนึ่งปีที่ท่านชวนอยู่บนถนนการเมืองตนขอสส.เขตหนึ่ง ขอไม่มากปีนี้ 50 ปี ขอ ส.ส.ภาคใต้ 50 เขต
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ใช้เวทีปราศรัยของพรรคที่ทุ่งสง นครศรีธรรมราช เปิดตัวผู้สมัครสส.ภาคใต้ 14 จังหวัด 50 เขต พร้อมประกาศ "ปฏิญญาทุ่งสง คืนความเป็นธรรม สู่ความเท่าเทียม" เพื่อเป็นการเปิดนโยบายแก้ปัญหในพื้นที่ภาคใต้ทั้งภาค เพราะตลอดการบริหารของรัฐบาลชุดนี้เพิ่มความทุกข์ให้กับคนภาคใต้จากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ตนและผู้สมัครสส.ภาคใต้ทั้งหมดมีส่วนร่วมในการเขียนนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวใต้ มีการกำหนดนโยบาย 5 เรื่องเพื่อแก้จนให้คนใต้ ทั้งเรื่องยางพารา ปาล์ม ประมง การท่องเที่ยว และปัญหาความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยกตัวอย่างนโยบายประกันรายได้ให้ยางพารา 60 บาทต่อกิโลกรัม รวมถึงปาล์ม 4 บาทต่อกิโลกรัม รวมถึงใช้โฉนดสีฟ้า โฉนดชุมชนมาแก้ปัญหาเรื่องชาวสวนไม่มีเอกสารสิทธิ รวมถึงการแก้กฎหมายประมงให้ปฏิบัติได้ โดยนโยบายทั้งหมดไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นการประกันรายได้ให้ชาวสวนมีความมั่นคงในชีวิต นำความยิ่งใหญ่กลับสู่ภาคใต้อีกครั้ง เพราะภาคใต้เป็นเมืองหลวงของประชาธิปัตย์ ถ้าพรรคพ่ายแพ้ในพื้นที่นี้ก็จะแพ้ยับเยิน ดังนั้นจึงต้องรักษาเมืองหลวงของพรรคประชาธิปัตย์ไว้เท่าชีวิต
นายนิพิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า เวทีปราศรัยครั้งนี้เป็นการปราศรัยระดับภาคครั้งแรกของพรรค จึงถือเป็นเวทีศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้สมัครของพรรคทั้ง 50 เขต มาประกาศตัวกับประชาชนว่าจะแบกทุกข์ของประชาชนทั้งภาค เพื่อใช้บ่าของผู้สมัครทั้งหมดในการแก้ปัญหาให้ภาคใต้ซึ่งเป็นเมืองหลวงของพรรคประชาธิปัตย์ จึงเรียกว่าเป็นปฏิญญาทุ่งสง ซึ่งนอกจาก 5 นโบายที่กล่าวไปแล้ว จะมี 5 เรื่องที่ประกาศเป็นปฏิญญาทุ่งสง คือ 1 ขยายเส้นทางคมนาคมด้วยการสร้างถนนมอเตอร์เวย์สู่ภาคใต้เป็นสายแรก โดยจะสร้างจากสุไหงโกลกขึ้นกรุงเทพมหานคร เรียกถนนสายนี้ว่า "ถนนสายจรัลนรา" ซึ่งนางจิรนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรท์เป็นผู้ตั้งให้ แปลว่า ทางเดินของคนดี เมื่อกิโลเมตรแรกเริ่มสร้างที่สุไหงโกลก จะขอพระราชทานนามจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเป็นทางการเพื่อความเป็นสิริมงคล
2 เร่งรัดการสร้างรถไฟทางคู่จากกรุงเทพเชื่อมสถานีรถไฟบัตเตอร์เวิร์ทของมาเลเซียให้เร็วที่สุด 3 เปลี่ยนระบบการปกครองของภูเก็ตให้เปมหานคร และยกระดับการปกครองที่นครศรีธรรมราช สงขลา สุราษฎร์ธานี ให้เป็นมหานครด้วย 4 ตั้งศูนย์โลจิสติกภาคใต้ที่ทุ่งสง ให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมในภาคใต้ และ 5 ยกระดับศูนย์กลางแพทย์เป็นระดับสูงในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้สามารถรักษาโรคที่ต้องใช้วิทยาการแพทย์ชั้นสูง ทั้งนี้ตนขอใช้ผู้สมัครทั้งหมดและพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวประกันให้ประชาชน ว่าทุกอย่างที่ประกาศจะต้องปฏิบัติตาม และขอเดิมพันด้วยชีวิตของตนรวมทั้งชีวิตของพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนพระเจ้าตากสินทุบหม้อข้าวตีเมืองจัน หากครั้งนี้ทำไม่สำเร็จขอให้ประชาชนอย่าเลือกคนบนเวทีเป็นสส.อีกเลย และไม่ต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไป แต่ขอร้องว่าอย่าเลือกแบบแยกส่วน ต้องเลือกประชาธิปัตย์ทั้ง 14 จังหวัด 50 เขต แล้วพรรคจะทำวาระศักดิ์สิทธิ์นี้ให้สำเร็จ พร้อมร่วมกันปักธงพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยานว่าพรรคจะปฏิบัติตามปฏิญญาทุ่งสงให้สำเร็จ