ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ร่วมกันยื่นบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีในนามของพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล เป็นนายกรัฐมนตรี
"โดยระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทางกรรมการบริหารได้ประชุมกันและเสนอชื่อจากสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติถึงบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค และกรรมการบริหารพรรคก็เห็นพ้องต้องกันว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเหมาะสมที่สุด จึงมีมติให้ความเห็นชอบ หลังจากนั้นเราได้ติดต่อประสาน ท่านก็มีพระเมตตาได้ตอบรับ และยินยอมให้ไทยรักษาชาติได้เสนอชื่อท่าน เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีในนามของพรรคไทยรักษาชาติ" ร.ท.ปรีชาพล แถลง
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นผู้ที่ทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด จะเห็นได้จากโครงการ To Be Number One ที่ช่วยเหลือเยาวชนให้ห่างไกลจากยาเสพติด หรือเป็นผู้แทนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ท่านได้เดินทางไปทั้งในและต่างประเทศได้รับทราบถึงความเดือดร้อนและปัญหาของพี่น้องประชาชน
ดังนั้น ในวันนี้จึงถือว่าเป็นพระเมตตาที่ท่านได้เสียสละ และลงมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ท่านให้เกียรติตอบรับเป็นบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ในนามของพรรคไทยรักษาชาติ
"เรามีแผนงานและนโยบายในการหาเสียงอยู่แล้วที่เตรียมไว้ ส่วนรายเอียดเกี่ยวกับท่านนั้น คงต้องให้ท่านมีพระเมตตา คงรอหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว ได้แถลงในรายละเอียดอีกครั้งว่าท่านจะมาช่วยหรือไม่ อย่างไร" หัวหน้าพรรค ทษช.กล่าว
พร้อมระบุว่า ปรากฎการณ์ทางการเมืองดังกล่าวนี้คงไม่ใช่การนำไปสู่รัฐบาลแห่งชาติ แต่เป็นการเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งตามระบอบรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนได้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง และยืนยันว่าจะไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอื่น เนื่องจากเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนเป็นสำคัญ เพราะทุกพรรคการเมืองมีสิทธิในการเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีให้ประชาชนได้ตัดสินใจ และย้ำว่าทางพรรคได้ดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญทุกประการ
"ถ้าบอกว่ารัฐบาลแห่งชาติ คงจะไม่ใช่ เป็นเรื่องของการเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้งให้ประชาชนใช้สิทธิใช้เสียง และทุกสิ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้...ความได้เปรียบเสียเปรียบ คงขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้พิจารณา เพราะทุกพรรคการเมืองมีสิทธิที่จะเสนอรายชื่อของนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาตัดสินใจ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ ก็เป็นการทำตามกระบวนการขั้นตอนทุกประการ ไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบใดๆ ทั้งสิ้น" ร.ท.ปรีชาพลระบุ
อย่างไรก็ดี คงเร็วเกินไปที่จะบอกในตอนนี้ว่าพรรคการเมืองใดจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะทุกสิ่งขึ้นอยู่กับการลงคะแนนเสียงของประชาชน ทั้งนี้ พรรคไทยรักษาชาติคงต้องมีการหารือกับพรรคที่มีแนวความคิดเดียวกันภายหลังจากผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว ซึ่ง ทษช.มีความชัดเจนแล้วว่าจะขอสนับสนุนแนวทางประชาธิไตย และจะทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจ
"เราคิดว่าประชาธิปไตยเป็นสิ่งสวยงาม ให้สิทธิเสรีภาพกับพี่น้องประชาชน และที่สำคัญที่สุด ประชาธิปไตยจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะพัฒนา และนำพาพี่น้องประชาชน ประเทศชาติไปสู่การกินดีอยู่ดี การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาที่ประเทศไทยประสบมานานแสนนาน ซึ่งประชาธิปไตยจะเป็นกุญแจเบื้องต้นที่เราจะต้องก้าวข้ามไปให้ได้ และนำไปสู่บันไดขั้นอื่นๆ ต่อไป เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ความเป็นอยู่ที่ดีกว่าของพี่น้องประชาชน" ร.ท.ปรีชาพลกล่าว
พร้อมระบุว่า แนวทางหนึ่งที่ชัดเจนของพรรค คือ เน้นความคิดทันสมัยและก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นผู้ซึ่งมีบุคลิกที่สอดคล้องกับพรรคไทยรักษาชาติ
เว็บไซต์วิกิพีเดีย ระบุว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระนามเดิม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประสูติเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2494 เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
หลังจากทรงสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ในสาขาวิชาคณิตศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ชีวเคมี (Bachelor of Science Degree in Bio-Chemistry) ณ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว จากนั้นทรงเข้ารับการศึกษาต่อปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ในสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ (Statistics and Public Health)
ทรงประกาศลาออกจากฐานันดรศักดิ์เป็นสามัญชนเพื่อเข้าพระพิธีเสกสมรสกับปีเตอร์ แลดด์ เจนเซนในพระบรมหาราชวังตามพระราชประเพณีแล้วเสด็จไปประทับด้วยพระสวามี ณ สหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ. 2515 โดยมีบุตรและธิดาด้วยกัน 3 คน ก่อนจะเสด็จนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวรเมื่อ พ.ศ. 2544 หลังจากได้ทรงหย่ากับปีเตอร์ เจนเซน กลับมาใช้นามเดิม คือ อุบลรัตน มหิดล
หลังเสด็จนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวร ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในด้านการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในโครงการ "TO BE NUMBER ONE" ทรงช่วยเหลือราษฎรและให้โอกาส ผู้พิการ เยาวชน ตลอดจนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ทั้งยังทรงแสดงภาพยนตร์ตามบทพระนิพนธ์หลายเรื่อง และทรงเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์