ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า พรรคมีข้อกังวลกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติโดยเร็วนั้น ซึ่งความเป็นจริงตามมาตรา 93 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กกต.ต้องมีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน และเป็นหน้าที่ของผู้ถูกกล่าวหาที่จะต้องชี้แจงทั้งเหตุผลตลอดจนข้อกฎหมาย และพยานต่างๆซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสู้คดี แต่ปรากฏว่ายังไม่มีการให้พรรคไปชี้แจงแต่อย่างใด
"พรรคคิดว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญที่จะต้องมีสิทธิในการแสดงพยานหลักฐานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง"ร.ท.ปรีชาพล กล่าว
สำหรับการเตรียมพยานบุคคลเพื่อเตรียมชี้แจงจะมีพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ด้วยหรือไม่นั้น ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายก่อนเพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน
อย่างไรก็ตาม พรรคคงต้องเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงต้องเดินหน้าต่อไป โดยวันนี้ได้เชิญคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการสรรหากรรมการยุทธศาสตร์และแกนนำของพรรคมาหารือเพื่อวางแผนการเดินหน้าการหาเสียง
อนึ่ง ร.ท.ปรีชาพล เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมด้วยนายฤภพ ชินวัตร, นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค เพื่อร่วมประชุมกรรมการบริหารพรรคและกรรมการสรรหาผู้สมัคร หารือกันถึงประเด็นสถานการณ์ทางการเมืองโดยระหว่างเดินเข้าพรรคมีชายวัยรุ่นคนหนึ่งมาดักรอมอบดอกกุหลาบสีชมพู พร้อมจับมือให้กำลังใจ
ขณะที่นายพิชิต ชื่นบาน ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า พรรคเตรียมพยานบุคคลและพยานเอกสารยื่นต่อ กกต.เพื่อขอโอกาสให้ฟังความทุกฝ่าย เพราะเป็นเรื่องสำคัญในหลักนิติรัฐ นิติธรรม และหลักสากล
"การร้องให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติคือการประหารชีวิตพรรค ดังนั้นจึงขอวิงวอนต่อ กกต.ให้ยึดหลักนิติธรรม"นายพิชิต กล่าว
ส่วนการเตรียมพยานบุคคลและเอกสารนั้น นายพิชิต กล่าวว่า เราควรจะได้รับทราบข้อกล่าวหาก่อนว่ามีประเด็นใดบ้างเพื่อจะพิจารณาว่าควรมีพยานหลักฐานอะไรบ้าง เพราะตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 เป็นกรณีข้อกล่าวหาที่รุนแรง ซึ่งฝ่ายกฎหมายเตรียมการพร้อมหมดแล้ว เราจะใช้สิทธิตามกฎหมายที่พึงมีในทุกๆศาล กรณีนี้ไม่ใช้การท้าทาย แต่เป็นการวิงวอนขอความเป็นธรรมให้พรรคไทยรักษาชาติมีโอกาส