บรรยากาศที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเปิดรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เป็นวันที่ 2 เริ่มมีความคึกคักแต่เช้า โดยบรรดาแกนนำและสมาชิกพรรคการเมือง นัดรวมพลกันที่บริเวณโถงศูนย์ราชการฯ อาคารบี ซึ่งอยู่ด้านนอกสำนักงาน กกต. ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเสรีรวมไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำและสมาชิกพรรค ได้เข้ายื่นสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ในช่วงเช้าวันนี้ พร้อมกับเสนอบัญชีรายชื่อผู้ที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี 3 รายชื่อ ประกอบด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายชัยเกษม นิติศิริ
นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า จะยื่นสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 97 ราย พร้อมทั้งเสนอบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่พรรคจะให้การสนับสนุน 3 ราย ส่วน ส.ส.ระบบแบ่งเขต ทางพรรคได้ส่งลงสมัคร 250 เขต
ด้าน ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เปิดเผยว่า จะยื่นสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 108 ราย และ ส.ส.ระบบแบ่งเขต 121 ราย ส่วนรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม โดยพรรคจะยื่นต่อ กกต.ภายในเวลาที่กำหนด
ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จะยื่นสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 100 ราย และ ส.ส.ระบบแบ่งเขต 350 ราย ส่วนรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีมีเพียงคนเดียว คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
"พรรคส่งปาร์ตี้ลิสต์แค่ 100 เดียว เราคำนวณแล้วว่าน่าจะได้ประมาณนี้ คงไม่มีพรรคไหนได้เต็ม 150 คน ยื่นไปก็เสียเงินค่าสมัครเปล่าๆ ถ้าหากได้เกิน 100 รายก็ยกให้พรรคการเมืองอื่นบ้าง"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการกกต. กล่าวว่า หลังจากปิดรับสมัครในวันที่ 8 ก.พ.แล้ว ทางกกต.จะตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครแต่ละบุคคลอีกครั้ง รวมถึงการดำเนินการตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งหากมีพรรคการเมืองใดดำเนินการไม่สมบูรณ์ก็จะส่งผลให้รายชื่อที่ยื่นสมัครมาทั้งหมดนั้นเสียไป และค่าสมัครตกเป็นของแผ่นดิน
ส่วนกรณีมีผู้สมัครเปลี่ยนชื่อเป็น "ทักษิณ" หรือ "ยิ่งลักษณ์" นั้น รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเป็นสีสันของการเลือกตั้ง เพราะไม่ได้เป็นชื่อต้องห้ามตามที่กฎหมายระบุไว้ นอกจากนี้กรณีที่มีแต่ละพรรคส่งผลสมัครเหมือนหลีกทางให้พันธมิตรนั้น นายณัฏฐ์ กล่าวว่า เป็นกลยุทธ์ของแต่ละพรรคการเมือง และเป็นสิทธิของแต่ละพรรค เพราะคงประเมินแล้วว่าเขตไหนจะสู้คู่แข่งได้หรือไม่
ส่วนท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังได้รับการทาบทามเป็นผู้เสนอเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐแล้ว นายณัฏฐ์ กล่าวว่า เท่าที่เห็นก็เป็นไปตามข้อกฎหมาย ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นนั้นเป็นเรื่องของความรู้สึกของแต่ละคนเท่านั้น ซึ่งอยากให้รอดูการตัดสินใจของประชาชน อย่าเพิ่งไปวิตกแทน ในส่วนของ กกต.นั้นจะมีการวินิจฉัยเฉพาะกรณีที่มีคำร้องเรียนเท่านั้น ไม่ใช่แค่การนำเสนอข่าว