ใกล้วันเลือกตั้ง 24 มีนาคม พรรคการเมืองต่างชิงไหวชิงพริบแข่งขันกันปราศรัยหาเสียงอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน โดยเฉพาะการชูนโยบายเศรษฐกิจมาเป็นจุดขายหวังให้โดนใจผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่ผลสำรวจทุกโพลล์ออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้องเป็นอันดับแรก
นโยบายเศรษฐกิจของ 6 พรรคการเมืองที่น่าจับตา ซึ่ง"อินโฟเควสท์"รวบรวมมาเปรียบเทียบไว้ ณ ที่นี้
#พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชูนโยบาย 7 เศรษฐกิจประชารัฐ
7 เศรษฐกิจประชารัฐ ได้แก่
-ยกระดับความสามารถผู้ผลิต 5 ล้านสมาร์ทเอสเอ็มอี , 1 ล้าน สมาร์ท ฟาร์มเมอร์, 1 ล้านสตาร์ทอัพ , 1 ล้านเมกเกอร์ และ 1 ล้านค้าปลีกชุมชน
-ก้าวสู่เกษตรประชารัฐ 4.0 ด้วยนโยบาย 3 เพิ่ม 3 ลด คือ เพิ่มรายได้ เพิ่มนวัตกรรม เพิ่มทางเลือก และลดภาระหนี้ ลดความเสี่ยง ลดต้นทุน
-กระจายรายได้ กระจายโอกาส ด้วยการท่องเที่ยวชุมชน
-ชูเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจแบ่งปัน
-สร้างเศรษฐกิจชีวภาพ อุตสาหกรรมหมุนเวียน นวัตกรรมสีเขียว
-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต
-ลดอุปสรรค เพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจ
#พรรคเพื่อไทย (พท.) นำเสนอมาตรการแก้วิกฤติเศรษฐกิจไทย
1.ปรับโครงสร้างหนี้ให้ประชาชนคนเล็กคนน้อย และธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก เพื่อให้คนไทยลุกขึ้นยืนตั้งตัวได้พร้อมรับมือวิกฤติ
2.ขยายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนด้วยสถาบันพัฒนารายได้ทุกจังหวัด
3.เพิ่มที่ขาย นำสินค้าไทยบุกตลาดโลก สร้างลูกค้าใหม่ ด้วยมืออาชีพด้านเศรษฐกิจและด้านการต่างประเทศ
4.กิโยตินกฎหมายขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการทำมาหากินของประชาชน นำเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนราชการ เพิ่มความโปร่งใส ให้ประชาชนเป็นเจ้าของธุรกิจได้โดยง่าย ลดต้นทุนแฝง ค้าขายคล่องตัว
5.ลดภาษีอย่างชาญฉลาด เพิ่มรายได้รัฐบาลโดยไม่ขูดรีดประชาชน
6.กองทุนปรับเปลี่ยนหน้าดินปรับโครงสร้างรายได้เกษตรกร พักชำระหนี้เพื่อให้เกษตรกรตั้งตัวได้ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารปลอดภัยป้อนคนทั้งโลก
7.เพิ่มนักท่องเที่ยวให้ถึง 50 ล้านคนต่อปี ฟื้นความเชื่อมั่นเพิ่มความปลอดภัย ดึงนักท่องกำลังซื้อสูง สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ สร้างประสบการณ์ใหม่ยกระดับฟู้ดสตรีทเป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวทั่วโลก ยกเลิกวีซ่าไทย-จีน เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวต่างชาติให้ถึง 3 ล้านล้านบาทต่อปี กระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ทุกจังหวัด
8.ศูนย์สร้างเถ้าแก่ใหม่ กองทุนคนเปลี่ยนงานให้คนรุ่นใหม่และพนักงานบริษัทสามารถมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ลดงบกลาโหม 10% ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เพื่อนำเงิน 2 หมื่นล้านบาทและเด็กรุ่นใหม่ของชาติมาสร้างธุรกิจ พร้อมตั้งกองทุนพัฒนาทักษะใหม่ สร้างงาน สร้างธุรกิจให้พนักงานบริษัทที่ถูกเลิกจ้างจากความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
9.สิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับธุรกิจของคนไทยด้วยบัตรทอง StartUp
10.สามสิบบาทยุคใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับคนไทย
#พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เน้นแก้จน สร้างคน สร้างชาติ
แก้จน
-นโยบายการประกันรายได้เกษตรกร รวมถึงนำเสนอนโยบายใหม่ในการประกันรายได้ให้กับผู้ใช้แรงงาน ในกรณีที่รายได้ทั้งปี ต่ำกว่า 1.2 แสนบาทต่อปี รัฐพร้อมจ่ายส่วนต่างให้
-ส่งเสริมปัจจัยการผลิตทั้งนโยบายโฉนดสีฟ้า ให้ประชาชนมีที่ทำกินหรือนโยบายกองทุนน้ำ กระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการแหล่งน้ำให้เกษตรกรได้
สร้างคน
-เน้นเรื่องการศึกษาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตตั้งแต่เด็กแรกเกิด ทำให้เด็กไทยในอนาคตสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการพัฒนาจากต่างประเทศมากขึ้น
สร้างชาติ
-กระจายอำนาจด้วยการให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกจังหวัด และกระจายอำนาจการศึกษาให้โรงเรียนสามารถกลายเป็นนิติบุคคลกำหนดนโยบายการศึกษาได้ด้วยตัวเอง และเน้นการกระจายอำนาจออกจากกรุงเทพมหานครผ่านนโยบาย 10 มหานครที่พรรคจะนำเสนอต่อไป
"พรรคประชาธิปัตย์ต้องการนำประเทศหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสู่เวทีสากล และเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นใหญ่ สร้างคน สร้างชาติ"
#พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) มุ่งเน้น 3 ด้าน
1.การนำประเทศไทยให้ก้าวทันโลก หลังจากล้าหลังมาหลายปี และต้องก้าวนำเพื่อกำหนดอนาคตประเทศล่วงหน้าเองถ้าทำได้ ซึ่งโลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเฉพาะทางเทคโนโลยีทำให้เกิด disruption ในวงการธุรกิจอย่างมากมาย และตลอดเวลา เช่น ธนาคาร เป็นต้น ดังนั้นการพัฒนาประเทศเพื่อเตรียมรองรับการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
2.การรับมือกับปัญหาของประเทศไทย เช่น ปัญหาการเจริญเติบโตที่ต่ำมาหลายปีติดกัน แถมยังไปกระจุกตัว ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาสังคมสูงวัย ปัญหาการว่างงานที่จะสูงขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น AI และ Robotic ปัญหาการผูกขาดทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
3.การนำประเทศไทยกลับไปเป็นศูนย์กลางตลาดทุนของอาเซียน โดยมีแนวทาง Regional integration ที่จะเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน
#พรรคอนาคตใหม่ "คนเท่าเทียมกัน ไทยเท่าทันโลก"
-มุ่งดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สนับสนุนการส่งเสริมการแข่งขันที่มีคุณภาพและเป็นธรรม ปราศจากการผูกขาด ควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ
-มุ่งแก้ไขปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตประชากร
-ปรับโครงสร้างการผลิตเพื่อรักษาและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
-เสริมสร้างศักยภาพและขยายโอกาสในการประกอบธุรกิจสำหรับประชาชน เพื่อยกระดับประเทศไทยไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีพลวัตและเติบโตแบบครอบคลุมทั่วถึง
-วางตำแหน่งประเทศไทยให้เป็นผู้นำและผู้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค
-ผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้กับการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนรวมถึงการนำมาใช้ในภาครัฐ
#พรรคภูมิใจไทย ชู sharing economy
-Thailand university sharing เพราะทุกคนเข้าถึงสารสนเทศเรียนผ่านดิจิทัลได้ ฝันที่จะเห็นว่าประเทศไทยจะมี Thailand sharing university เรียนฟรีตลอดชีพ ไม่ต้องไปเอนทรานซ์ เรียนรู้ด้วยตัวเอง
-Profit sharing แก้ปัญหาเกษตรกรรายได้น้อย เหมือนการบริหารจัดการอ้อยและน้ำตาลตั้งแต่ปี 2522 ทำให้ไม่ต้องใช้การจำนำอ้อย และไม่มีปัญหากับรัฐบาลมากมายเหมือนพืชเศรษฐกิจอื่น โดยจะใช้แนวทางเดียวกันทั้ง ข้าว ยาง มัน และปาล์ม
-Sharing economy กับการบริการด้านท่องเที่ยว ปลดล็อคกฎหมายให้คนใช้สินทรัพย์ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เพิ่มรายได้ให้เจ้าของรถ เจ้าของบ้าน ด้วยแพลตฟอร์ม Grab และ Airbnb ยกตัวอย่าง"บุรีรัมย์"ใช้เวลา 8 ปี กลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงกีฬา รองรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 2 แสนคน