นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ชูนโยบายบริหารจัดการข้าวในรูปแบบเดียวกับอ้อย-น้ำตาลว่า ถือเป็นความตั้งใจที่ดี แต่ความจริงแล้วตลาดอ้อย-น้ำตาลกับตลาดข้าวมีความแตกต่างกัน ที่ผ่านมาระบบอ้อย-น้ำตาลสามารถทำได้ เพราะสามารถตรึงราคาน้ำตาลไว้ในระดับสูง แต่จะเห็นได้ว่าทันทีที่มีการลอยตัวราคาน้ำตาล และน้ำตาลลดลงราคาอ้อยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
"เพราะฉะนั้นคำถามก็คือว่า ถ้าเอาระบบอ้อย-น้ำตาลมาใช้กับข้าวก็แปลว่าให้คนไทยกินข้าวแพงใช่หรือไม่ ประการที่สองการป้อนอ้อยเข้าสู่โรงงานผลิตน้ำตาล มีโรงงานน้อยมีระบบที่สามารถตรวจสอบได้ ในขณะที่การค้าขายข้าวมีหลายประเภท โรงสีมีจำนวนมาก ตรงนี้เป็นปัญหาที่จะทำได้ยาก เรื่องนี้สามารถฟังจากนักวิชาการว่าสามารถเป็นไปได้จริงหรือที่จะนำระบบอ้อยน้ำตาลมาใช้กับพืชเช่นข้าว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กลไกการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยมีความแตกต่างกัน พรรคประชาธิปัตย์ทำนโยบายจากประสบการณ์ โดยใช้นโยบายประกันรายได้ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จมาระดับหนึ่ง ในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะมีการปรับปรุงยกระดับขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เป็นนโยบายที่พิสูจน์แล้วว่าดำเนินการไปแล้วระบบการเงินการคลังไม่เสียหาย ที่สำคัญไม่มีการทุจริต และกลไกการขายข้าวไม่พัง ข้าวไทยยังสามารถแข่งขัน และส่งออกได้เป็นอย่างดี