นายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการสูงสุด เปิดเผยภายหลังรับมอบสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ตกเป็นผู้ต้องหาจากความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ด้วยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จว่า สำนักงานคดีอาญา ได้รับสำนวนจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 สำนวน คาดว่าคณะทำงานฯ คงจะไม่สามารถพิจารณาคำสั่งได้ทันก่อนวันเลือกตั้ง โดยน่าจะเป็นวันที่ 26 มี.ค.62
"เราคงพิจารณาไม่ทัน (การเลือกตั้ง) ก็ต้องเลื่อนไปตามระเบียบ คือเลื่อนไปอีก 1 เดือน ประมาณ 26 มี.ค." อธิบดีอัยการสูงสุดระบุ
ทั้งนี้ เป็นคดีสืบเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ในฐานะตัวแทนของ คสช. แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ต้องหาที่ 1 นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ผู้ต้องหาที่ 3 ร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ และก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน จากกรณีจัดรายการ"คืนวันศุกร์ให้ประชาชน"ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ในเพจอนาคตใหม่ – The Future We Want และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit วิจารณ์กระแสข่าวพลังดูดของ คสช. เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดได้เข้ามอบตัวกับพนักงานเมื่อวันที่ 17 ก.ค.61 และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาไปแล้ว
ภายหลังจากรับมอบสำนวนแล้วจะมีคำสั่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุดต่อไป โดยยืนยันว่าอัยการสูงสุดไม่ได้มีการเร่งรัดกระบวนการพิจารณาคดีตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันแต่อย่างใด เนื่องจากคดีนี้มีการกล่าวหาไว้แล้วตั้งแต่ ก.ค.61 นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังมีสิทธิที่จะยื่นให้สอบพยานเพิ่มเติมได้
"คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน และเป็นคดีที่สำคัญ ดังนั้นการพิจารณาจะต้องทำอย่างรอบคอบ จะได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้น โดยมีรองอธิบดีอัยการเป็นหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาสำนวน" นายวิเชียร กล่าว
พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะไม่ถูกฝากขังอย่างแน่นอน เพราะกระบวนการตามกฎหมายได้เลยขั้นตอนนี้ไปแล้ว เนื่องจากแนวทางปฏิบัติของอัยการนั้น การที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ในระหว่างการสอบสวนในชั้นอัยการ จะต้องมีเหตุตามกฎหมายว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน แต่คดีนี้ผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์เช่นนั้น เพราะผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้เข้าไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง