นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวปราศรัยนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ประชาชนเป็นใหญ่ประชาธิปไตยสุจริต ในระหว่างลงพื้นที่ช่วยหาเสียงที่จังหวัดร้อยเอ็ดว่า การแก้ปัญหาข้าวด้วยนโยบายประกันรายได้ของประชาธิปัตย์อาจจะไม่หวือหวา แต่ไม่เคยสร้างความเสียหายให้กับประเทศ เพราะไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น
"รอบนี้ถ้าประชาธิปัตย์ได้กลับเข้ามาบริหารบ้านเมืองก็จะนำนโยบายประกันรายได้กลับมาใช้กับพืชเกษตรหลายตัว เช่นยางพารา ปาล์มน้ำมัน เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรหายจน มีเงินจับจ่ายเศรษฐกิจของประเทศก็จะหมุนเวียน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคจะไม่ยกเลิกโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่จุดอ่อนของโครงการ คือไม่สามารถแก้จนได้จริง แถมยังซ้ำเติมเศรษฐกิจในชุมชน โดยจะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น 4 ประการ คือ 1.คนจนทุกคนต้องได้บัตร 2.คนไม่จนจริงต้องเก็บบัตรคืน 3.สิทธิในการรับเงินทุกเดือนๆ ละ 800 บาท ตัดเงื่อนไขที่ยุ่งยากออกไป และ 4.จ่ายเป็นเงินสด 800 บาทเข้าบัญชีทันที สามารถใช้จ่ายได้อยากอิสระ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน
หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า ปัญหาของพี่น้องภาคอีสานคือเรื่องของการเกษตร ปัญหาที่ทำกิน ปัญหาเรื่องน้ำ ราคาพืชผลเกษตร นโยบายโฉนดสีฟ้า กองทุนน้ำชุมชนก็ดี จะตอบโจทย์เรื่องข้างต้น ส่วนนโยบายประกันรายได้จะตอบโจทย์สำหรับข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด และจะมีนโยบายเฉพาะอ้อยด้วย
"มั่นใจว่าปัญหาด้านการเกษตรถ้าเราแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ก็จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาได้ในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวการที่เรามีนโยบายเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานใช้การเชื่อมโยงกับภูมิภาคทำให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับพี่น้องภาคอีสาน รวมไปถึงการเอาระบบกระจายอำนาจ ระบบมหานครมาจับ น่าจะเป็นการสร้างโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับพี่น้องชาวอีสาน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวถึงนโยบายแก้จนว่า สำหรับประชาชนที่อยู่ในที่ดินที่มีปัญหาเรื่องของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ถ้ามีความมั่นใจว่าอาศัยและทำมาหากินอยู่มานาน รัฐบาลประชาธิปัตย์จะเข้าไปดูแลผ่านโครงการโฉนดสีฟ้า ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่จะมีการออกเอกสารให้เกิดความมั่นคงมั่นใจ อาทิ โฉนดชุมชน จะเอาธนาคารที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานช่วยเหลือ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำไปเป็นหลักประกันในการกู้ยืม เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้
ส่วนปัญหาเรื่องน้ำ พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายกองทุนน้ำชุมชน โดยจะให้ประชาชนรวมกลุ่มและตกลงกันในแต่ละหมู่บ้านว่าจะใช้พื้นที่เพื่อเป็นแหล่งน้ำของชุมชนโดยใช้งบประมาณจากกองทุนน้ำชุมชนตรงนี้ก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องน้ำให้กับพี่น้องประชาชนได้
"มีหลายพรรคการเมืองเอาตัวเลขมาล่อใจประชาชน ถามประชาธิปัตย์ว่าอยากให้ประชาชนในจำนวนมากๆ หรือไม่ ประชาธิปัตย์ก็ขอตอบว่าอยากจะให้ แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีความรับผิดชอบ ประชาธิปัตย์จึงไม่นำเสนอนโยบายที่ทำให้ประเทศไทย รัฐบาลไทย ขาดวินัยการเงิน การคลัง หรือเสียหายล่มจมล้มละลาย ไม่มีนโยบายลดแลกแจกแถม สุดท้ายสร้างหนี้ให้พี่น้องลูกหลานคนไทย บางพรรคการเมืองมีนโยบายให้ อสม.ไปถึงหลักหมื่น...นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ผ่านการคิด ผ่านการทำงาน เรามั่นใจว่าสิ่งที่เราพูด ปฏิบัติได้จริง การเลือกตั้งครั้งนี้ นโยบายดีปฏิบัติได้"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สำหรับเป้าหมายการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสาน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตามระบบเลือกตั้งใหม่ทุกคะแนนมีความหมายมาก พรรคฯ ก็คาดหวังว่าพี่น้องประชาชนอีสาน ซึ่งเคยเลือกประชาธิปัตย์มาไม่น้อยจะสามารถเพิ่มคะแนนเสียงให้พรรคฯได้ทุกเขต ในเขตที่มีคะแนนแพ้อยู่เล็กน้อย เที่ยวนี้ก็คาดว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
"24 มีนาคมนี้ เชื่อว่าเป็นวันที่พี่น้องชาวอีสานรอคอยมานาน เป็นโอกาสอีกครั้งหนึ่งในการที่จะยืนยันความเป็นเจ้าของประเทศที่จะพาบ้านเมืองของเรา ชีวิตของเราหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ที่ติดหล่มมาเป็นเวลานาน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว