นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมทีมงานลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดวัดหนองแขม เขตหนองแขม กทม. กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายทำกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น ยกระดับความเจริญให้กับ กทม. ทุกเขต สำหรับการลงพื้นที่ต่าง ๆ พบว่า ยังขาดการเชื่อมโยงระหว่างแกนนำชุมชนกับพรรคการเมืองเพื่อนำปัญหาไปยังภาครัฐแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน ซึ่งจากการลงพื้นที่ในเขตบางบอน-หนองแขม และได้พูดคุยกับแกนนำชุมชนพบว่า พื้นที่นี้ยังมีปัญหาน้ำเสีย น้ำท่วมขัง ปัญหายาเสพติดที่ระบาดในชุมชน ตนจึงได้ขอร้องผู้นำชุมชนสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐเพื่อเป็นตัวเชื่อมโยงแก้ปัญหาให้กับคนในพื้นที่
โดยพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายจะปรับเปลี่ยนเขตบางบอนจากเมืองนักเลงเป็นเมืองแห่งการเพิ่มรายได้ เนื่องจากเป็นความรู้สึกของชาวบ้านที่ไม่อยากให้คนมองว่าพื้นที่แถวบางบอน แถวหนองแขม เป็นพื้นที่อิทธิพล เหล่านี้เป็นเสียงสะท้อนของชาวบ้าน ผมให้กำลังใจและบอกชาวบ้านว่า ผมเชื่อมั่นว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น เราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ไม่ให้เป็นแบบเดิมได้อย่างไร
ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้าย ขอให้จับตาพรรคพลังประชารัฐจะมีไม้เด็ดอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในฐานะบุคคลที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกฯ มาช่วยหาเสียงนั้น ในบ่ายวันเดียวกันนี้ก็จะมีการหารือ และคาดว่าจะมีความชัดเจนใน 1-2 วันนี้ เนื่องจากพรรคมียุทธศาสตร์และแผนการปราศรัยหาเสียงอยู่ซึ่งต้องปรับให้สอดคล้องและตรงตามเวลาของท่านนายกฯ ด้วย
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ระบุว่า ในช่วงบ่ายทางพรรค พปชร.เตรียมที่จะพูดคุยเพื่อจัดคิวปราศรัยให้กับ"ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะลงในพื้นที่ไหนบ้าง แต่ก็มีข้อจำกัด ลงได้เฉพาะช่วงเช้า และเย็นในวันธรรมดา รวมถึงเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งจะเหลืออีก2-3 สัปดาห์ ที่เหลืออยู่ โดยจะเป็นการทำให้ประชาชนได้ใกล้ชิดลุงตู่มากขึ้น ส่วนที่แรกจะไปที่ไหน กำลังคิดกัน ซึ่งอาจจะเป็นโคราช บ้านเกิดลุงตู่ ก็จะเป็นสิ่งที่ประชาชนคนโคราชได้มาจับต้องกับนโยบายนายกฯลุงตู่
"ลุงตู่ ย้ำเสมอว่า ท่านไม่เอาพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เพราะทุกคน คือคนไทย ท่านคือนายกฯ ของทุกคน เพราะฉะนั้น ท่านจะลงทุกพื้นที่เท่ากันขอให้ทุกคนภูมิใจ วันนี้เรามีคนที่ใช่ คนที่ทำเพื่อบ้านเมือง "โฆษกพรรค พปชร. กล่าว
ส่วนว่าจะลงให้ครบทุกภูมิภาคหรือไม่นั้น นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า จะมีการหารือกันเพราะต้องเลือกตามข้อจำกัดของเวลา พร้อมระบุขนาดที่ผ่านมา ไม่มีลุงตู่ เวทีของพลังประชารัฐก็แทบจะระเบิด ไม่ต่ำกว่า 10,000 ถึง 20,000 คน มั่นใจว่า ถ้าลุงตู่มาต้องเบียดเสียดเต็มที่
นอกจากนี้ยังย้ำว่าภารกิจของลุงตู่ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ จะไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินในขณะนี้ เพราะมีทีมกฎหมายดูแลเป็นอย่างดี ดำเนินทุกวิถีทางให้ถูกต้องตามกฏหมาย ตามกฎเกณฑ์ของกกต. ย้ำว่าไม่เคยทำอะไรตามพลการ ถามกกต. เสมอว่าทำได้หรือไม่ ระมัดระวังรอบคอบ เพื่อให้ประชาชนได้พบกับลุงตู่สมความปรารถนา นี่คือความต้องการของประชาชน ตัวผู้สมัครเองก็ฮึกเหิม ย้ำว่าพลังประชารัฐก็กำลังดีวันดีคืนกระแสดีขึ้นเรื่อยเรื่อย และเชื่อว่าการที่ลุงตู่ลงพื้นที่จะเป็นสีสันในโค้งสุดท้าย และเป็นพลังกำลังหลักของพลังประชารัฐ
นายกอบศักดิ์ ยังกล่าวถึงความนิยมของพรรค พปชร.ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ตนมั่นใจโพลเราดีวันดีคืน และแกนนำพรรคต่างสลับกันไปลงพื้นที่ เห็นถึงกระแสความรักของพี่น้องประชาชน ประเมินว่าพรรคเราเป็นพรรคที่มีส่วนผสมที่ใช่ มีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนชอบ ถูกใจ อยู่ในดวงใจเขา พร้อมย้อนถามว่าเลือกพรรคเดิมๆมากี่ปีแล้ว เลือกแล้วกทม. เปลี่ยนหรือไม่ แล้วยังจะเลือกอีกทำไม ทำไมไม่เลือกคนใหม่ๆ เอาหัวใจใหม่ๆ มาทำงานให้ประชาชน