นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวขณะนำคณะลงพื้นที่ร่วมปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดอุบลราชธานีว่า พรรคให้ความสำคัญกับจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งมีศักยภาพในการเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านอินโดจีน หากมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 6 จะสามารถเดินทางผ่านประเทศลาว กัมพูชา ข้ามไปถึงเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม พร้อมทั้งชูนโยบายข้าวช่วยเหลือชาวนา ซึ่งพรรคมีนโยบายที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้อย่างมากคือ 1.พยุงราคาข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาท 2.การช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ เรียกรวมกันว่า "ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม" ซึ่งมั่นใจว่านโยบายที่คิดมานี้เป็นสิ่งที่ทำได้จริง
นายสุวิทย์ กล่าวว่า พรรคพร้อมเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ด้วยความโดดเด่นของพรรคที่มีแก้ว 3 ประการ ทั้งผู้สมัครที่เราคัดเลือกกันอย่างเข้มข้นจนได้คนที่มีคุณภาพเหมาะสมที่จะเป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานี อีกทั้งเรื่องนโยบายที่มาจากความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงทำได้จริง ลดหนี้ เพิ่มเงิน สร้างอาชีพ โดยมีกองทุนพัฒนาชุมชนให้เป็นทุนสำหรับอาชีพของชุมชน
"เรามีนโยบายดูแลคนไทยทุกคนให้พัฒนาอย่างคุณภาพด้วยมารดาประชารัฐ ดูแลประชาชนที่มีรายได้น้อยด้วยสวัสดิการประชารัฐ"
และที่สำคัญแก้วดวงที่สามคือพรรคเสนอผู้นำที่จะเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งเป็นคนที่ทำมากกว่าพูด ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักนั่นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนที่พาสังคมไทยสงบสุขและคนที่จะทำนโยบายของพรรคให้เป็นจริงต่อไป
"สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ต้องการผู้นำแบบนายกฯ ลุงตู่ ที่กล้าคิด กล้าทำ มีผลงานเป็นรูปธรรม ทำให้เห็นมาแล้วตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา ยิ่งกว่านั้นท่านเป็นความมั่นใจของผู้คนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ทำให้ประเทศนิ่ง มีเสถียรภาพ สังคมสงบสุข"นายสุวิทย์ กล่าว