กรุงเทพโพลล์ เผยในการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ 21.7% ตั้งใจจะเลือกผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย (พท.) เข้ามาบริหารประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 8.9% ในการสำรวจครั้งก่อน รองลงมา 19.0% จะเลือกผู้สมัครฯ จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพิ่มขึ้นจาก 7.4% ตามด้วย 15.5% จะเลือกผู้สมัครฯ จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพิ่มขึ้นจาก 7.9%, 12.0% จะเลือกผู้สมัครฯ จากพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เพิ่มขึ้นจาก 6.3% และ 3.9% จะเลือกผู้สมัครฯ จากพรรคเสรีรวมไทย (สร.) เพิ่มขึ้นจาก 2.1% ขณะที่ 21.6% ยังไม่ตัดสินใจ ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน 31.8%
ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ 24.8% จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพิ่มขึ้นจาก 7.6 ในการสำรวจครั้งก่อน รองลงมา 17.3% จะสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพิ่มขึ้นจาก 5.3% ตามด้วย 13.3% จะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพิ่มขึ้นจาก 6.45, 11.3% จะสนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพิ่มขึ้นจาก 5.8% และ 6.5% จะสนับสนุน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เพิ่มขึ้นจาก 1.9% ขณะที่ 17.7% ยังไม่ตัดสินใจ ลดลงจาก 28.3%
โดยประชาชนส่วนใหญ่ 96.7% ตั้งใจว่าจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 24 มี.ค.62 ขณะที่ 1.5% ตั้งใจว่าจะไม่ไป ส่วนอีก 1.8 ยังไม่แน่ใจ ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ 63.0% มีความเชื่อมั่นค่อนข้างข้อยถึงน้อยที่สุดว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้จะไม่มีการทุจริตการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ส่วนอีก 37.0% เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
ทั้งนี้ กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง "นับถอยหลัง 14 วัน สู่การเลือกตั้ง" โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,735 คน เมื่อวันที่ 4-6 มี.ค.ที่ผ่านมา