เลือกตั้ง'62: พปชร.ลุยหาเสียงทั่วไทย ปัดต่อท่อเผด็จการ ชูสวัสดิการประชารัฐ-ก้าวข้ามความขัดแย้ง พร้อมนำปท.สู่ความสงบ

ข่าวการเมือง Sunday March 10, 2019 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินหน้าหาเสียงทั่วไทย โดยนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์กรุงเทพฯ นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส. จ.สิงห์บุรี พร้อมปราศรัยที่บริเวณสนาม CS Park ไชยแสง อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เมื่อวานนี้ โดยนายสุวิทย์ กล่าวปราศรัยโดยปฏิเสธการต่อท่อเผด็จการ แต่พร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โดยพรรคพลังประชารัฐเกิดขึ้นเพื่อที่จะรักษาพื้นแผ่นดินไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง

พันธกิจที่สำคัญของพรรคพลังประชารัฐ คือ สวัสดิการประชารัฐจะทำอย่างไรให้ประชาชนไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง แล้วก็จะมีการพักหนี้กองทุนหมู่บ้านเป็นระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้จะมีการเข้าไปเพิ่มเงินทุน รวมถึงยังมีนโยบาย"หมอถึงบ้านพยาบาลถึงเรือน" เมื่อประชาชนเจ็บป่วยทุกคนจะต้องมีหมอในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 พร้อมทั้งจะสานต่อนโยบายเพื่อประชาชน

ด้านนายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า พรรคยังเชื่อในระบอบความเป็นประชาธิปไตย เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวกันมามากมาย ซึ่งพรรคพลังประชารัฐอยากเห็นประเทศไทยเดินหน้าจึงอาสาเข้ามาดูแลประชาชน

ขณะเดียวกันในเช้าวันนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าหาเสียงในพื้นที่จ.พิษณุโลก พร้อมกับระบุว่าขณะนี้ได้กระแสตอบรับดีมาก โดยปัญหาที่ประชาชนต้องการให้ช่วยเหลือมากที่สุด คือ เรื่องที่ดินส.ป.ก. การเกษตร และสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ

ส่วนการเปิดเวทีใหญ่ที่จ.สุโขทัย ในสัปดาห์หน้า ได้เตรียมการเวิร์คช็อปให้ผู้บริหารพรรคได้พบกับเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ ที่ปลูกใบยาสูบในช่วงฤดูร้อน ซึ่งอยากให้ผู้บริหารและภาครัฐได้รับรู้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องภาษีบุหรี่ที่สร้างความหนักใจให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก ตนคิดว่า ในเมื่อห้ามคนสูบบุหรี่ไม่ได้ ก็ควรสร้างกำแพงภาษีบุหรี่ โดยเฉพาะบุหรี่จากต่างประเทศ หากจะปรับขึ้นภาษีควรปรับบุหรี่นอก แต่บุหรี่ไทยควรคงที่ไว้ เพื่อให้บุหรี่ไทยสามารถขายได้ เป็นการช่วยเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในประเทศไทย ให้สามารถส่งใบยาสูบให้กับโรงงานยาสูบได้ในปริมาณที่ไม่ลดลงไป ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้

สำหรับกระแสของพรรคพลังประชารัฐในจ.สุโขทัย นับว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยช่วงโค้งสุดท้ายต้องทำงานหนักในการเสนอนโยบายที่โดนใจชาวบ้าน รวมทั้งเข้าให้ถึงทุกพื้นที่ ส่วนจะได้ทุกเขตหรือไม่อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนางสาววทันยา ลงพื้นที่บริเวณสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร ร่วมกันวิ่งออกกำลังกายและปั่นจักรยาน รวมทั้งพบปะประชาชนที่มาออกกำลังกาย โดยนายกอบศักดิ์ มั่นใจว่า ผู้สมัครของพรรค จะเป็นทางเลือกให้ชาวราชเทวี พญาไท จตุจักร รวมถึงนโยบายของพรรค จากการเดินพบปะกับประชาชน ยังมีความต้องการที่จะให้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานคร เช่นนโยบายด้านสุขภาพ ขณะที่ประชาชนรู้จักแล้วว่าเป็นพรรคที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคที่ทำนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ เป็นพรรคที่ไม่ขัดแย้งกับใคร จึงทำให้นโยบายเข้าถึงในใจทุกคน พรรคพลังประชารัฐจึงเป็นส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงประเทศนำความสงบกลับคืนมาให้ทุกคนเดินหน้าต่อไปได้

หลังจากนี้พรรคจะเร่งเดินหน้าหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย แม้พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ออกปราศรัย แต่ก็ได้ให้คำปรึกษาพรรคษาพรรคอย่างใกล้ชิด ให้รับฟังปัญหานำมาทำนโยบายใหม่ ๆ โดยนโยบายใหม่ ๆ ที่ออกมานั้นตรงใจประชาชน เช่น นโยบายที่ชาวนายิ้ม ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา นโยบายเติมเงินบาทแรกให้ชาวนา ช่วยค่าปลูก ไร่ละ 1,500 บาท ค่าเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท และ ค่าเก็บ ตันละ 1,500 บาท

"กรุงเทพมหานคร เราเลือกผู้สมัคร ส.ส.กันมากี่ปีแล้ว ก็อยู่กับสิ่งเดิม ๆ ไม่มีความเปลี่ยนแปลง จึงขอโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่พร้อมเปลี่ยนแปลง กทม.นำนโยบายดีดีของพรรคพลังประชารัฐ อาทิ หาบเร่แผงลอย ถนนคนเดิน คลองสวยน้ำใสเลือกเหมือนเดิมก็ได้เหมือนเดิม ถึงเวลาที่ต้องเลือกผู้สมัครรุ่นใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลง"นายกอบศักดิ์ กล่าว

นายกอบศักดิ์ ยังให้ความเห็นกรณีที่มีการนำเสนอโผรายชื่อบุคคลที่จะได้รับการสรรหาเป็น สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งมีบุคคลใกล้ชิด ครอบครัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รวมถึงคนใกล้ชิดเหล่าทหาร จนอาจทำให้ถูกมองว่าพรรคพลังประชารัฐได้เปรียบ โดยระบุว่า ยังไม่เห็นรายชื่อ ไม่ทราบว่าใช่รายชื่อที่แท้จริงหรือไม่ และไม่ได้ให้ความสนใจเพราะไม่เกี่ยวพรรค แต่พรรคมีเป้าหมายเดียว คือ ต้องการให้ได้เสียง ส.ส.ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ หัวใจไม่ใช่ชนะเลือกตั้ง แต่หัวใจ คือ เอานโยบาย ที่สัญญากับประชาชน นำไปสู่การปฏิบัติให้ได้มากที่สุด

ทางเดียวที่จะทำได้ พลังประชารัฐต้องได้เสียงให้มาก อย่างน้อยต้องให้ได้ 150 เสียง ขณะเดียวกันผู้ที่จะมาร่วมรัฐบาลต้องบวกกันให้เกิน 250 เสียง ไม่มีทางที่จะเอาเสียงข้างน้อยไปบวกกับ ส.ว. ซึ่งทำงานไม่ได้ ดังนั้น ส.ว.จึงไม่ใช่เป้าหมายของพรรค และจากการฟังนโยบายของหลายพรรคก็มีนโยบายที่ดีมาก จึงหวังว่าจะได้มีโอกาสได้ร่วมทำงานกัน นำความสุขเปลี่ยนแปลง ตอบสนองประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ