สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเวทีสัญญาประชาคมพรรคการเมือง ‘ทำอย่างไรประชาธิปไตยไทยจะไม่ล้มเหลวอีก’ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และนายชำนาญ จันทร์เรือง ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เข้าร่วมงานเสวนา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งว่า หากพรรคใดสามารถรวบรวมคะแนนเสียงในสภาได้ 250 ที่นั่ง ให้เสนอไปยังสมาชิกวุฒิสภาให้ความเห็นชอบตามที่ส.ส.เสนอ พร้อมทั้งฝากให้ทุกพรรคการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่สร้างเงื่อนไขทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นธรรม และการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นต้องเป็นที่ยอมรับ มีการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรม
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย นอกเหนือจากการปฏิวัติรัฐประหาร ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของนักการเมืองที่จากการเลือกตั้งเสียเอง ซึ่งนักการเมืองต้องพร้อมยอมรับการตรวจสอบถ่วงดุลได้ เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่หลักประกันใดที่จะบอกว่า ประชาธิปไตยจะไม่ล้มเหลวอีก
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า หากได้มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมเดินหน้าประชาธิปไตย โดยให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ถ่วงดุล อย่างเต็มที่ และยอมรับว่าพร้อมมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้แม้ส.ส.ทั้ง 500 คนจะเห็นชอบ เพราะยังต้องผ่านความเห็นชอบของส.ว. 250 คน แต่จะสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้หากกระบวนการสังคมต้องช่วยกันกดดันส.ว.ให้มีการตอบสนองต่อความเห็นของประชาชน และยืนยันว่า ไม่ทำอะไรที่เป็นการเพลี่ยงพล้ำหรือตกหลุม จนกลายเป็นประเด็นนำไปสู่ความขัดแย้งในวันข้างหน้าอีก
ด้านนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งว่า ต้องเปิดโอกาสให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน หากพรรคอันดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ถึงค่อยเปิดโอกาสให้พรรคอันดับ 2 หรือ 3 ได้มีสิทธิ์ในการรวบรวมคะแนนเสียงจัดตั้งรัฐบาลต่อไป และสมาชิกวุฒิสภาต้องให้ความเห็นชอบตามที่พรรคการเมืองสามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้
"พรรคไหนมาที่หนึ่ง ต้องจัดตั้งรัฐบาลก่อน ส.ว.อย่ามายุ่ง...พรรคที่ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ค่อยไปพรรคที่ 2 ที่ 3 ถ้าเขาจัดตั้งเกิน 250 เสียง คุณ(ส.ว.)โหวตให้เขาไปเลย คุณอย่าไปบล็อก"นายโภคิน กล่าว
ทั้งนี้ นายโภคิน อยากเห็นการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้เกิดความสุจริต เป็นธรรม และอย่าทำให้ประชาชนต้องผิดหวังกับการเลือกตั้งครั้งนี้
นอกจากนี้ นายโภคิน กล่าวถึงแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์พฤษภา’35 ว่า ที่ผ่านมาโดยเฉพาะในช่วง 10 ปีหลัง เกิดวัฒนธรรมในลักษณะที่คนไทยคุ้นเคยกับอำนาจนิยม การยึดอำนาจ ซึ่งในรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2534 จนถึงปัจจุบัน ในรัฐธรรมนูญระบุว่า ไว้ว่า การกระทำรัฐประหารชอบด้วยกฏหมายทั้งสิ้น ได้เสนอแนวคิดในการป้องกันรัฐประหารในอนาคตว่า หากสามารถแก้รัฐธรรมนูญ จะมีการบัญญัติมาตราที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารไม่สามารถทำได้ และห้ามให้ศาลวินิจฉัยว่า การทำรัฐประหารชอบด้วยกฏหมาย และให้ถือเป็นประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นการยึดมั่นในระบอบนิติธรรม และหากศาลไม่วินิจฉัยตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ศาลต้องถูกรับโทษด้วย ซึ่งทางพรรคได้เตรียมร่างพ.ร.บ.ป้องกันรัฐประหารโดยไม่มีอายุความ และดำเนินคดีได้ตลอด
นายชำนาญ จันทร์เรือง ผู้ร่วมก่อตั้ง พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งว่า พรรคที่ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำเป็นต้องรวบรวมคะแนนเสียงให้มากที่สุด เพื่อสร้างแรงกดดันต่อการทำหน้าของสมาชิกวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี แม้อาจจะมีความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงข้างน้อย แต่เชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐคงไม่ได้คะแนนเสียงถึง 125 เสียง
ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่จะให้การสนับสนุนพรรคการเมืองที่ไม่สืบทอดอำนาจ และต้องมาจากส.ส.เท่านั้น และหากไม่ได้เป็นพรรคที่ได้ทำนโยบายหลักก็ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาล