นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คตส.มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัท ห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร จำกัด(เซ็นทรัลแล็บ) พร้อมให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งหมด 53 คน ซึ่งการทุจริตดังกล่าวสร้างความเสียหายให้แก่รัฐถึง 343 ล้านบาท
โดยผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาประกอบด้วย 3 กลุ่มสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มแรกนักการเมือง ได้แก่ นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์, กลุ่ม 2 ได้แก่ คณะกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ คณะกรรมการบริษัท คณะทำงานด้านเทคนิคสถานที่และอุปกรณ์ และคณะทำงานพิจารณาด้านเทคนิคอุปกรณ์ ของบริษัทเซ็นทรัลแล็บ และกลุ่ม 3 ได้แก่ บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูล
นายสัก กล่าวว่า จากการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการฯ พบว่ามีความผิดใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ ความผิดตั้งแต่ระดับนโยบายในการก่อตั้งบริษัทซึ่งจากเดิมที่ขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีว่าจะจัดตั้งเป็นองค์การมหาชน แต่ต่อมาภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเป็นบริษัทจำกัด
นอกจากนี้เซ็นทรัลแล็บยังมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจไม่ใช่บริษัทจำกัด ซึ่งจำเป็นต้องยึดแนวทางการดำเนินงานตามกฎหมายต่างๆ เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจ และสุดท้ายการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของเซ็นทรัลแล็บมีลักษณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางของเครื่องมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางรายด้วย
"ตั้งแต่นโยบาย มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานจากองค์การมหาชนมาเป็นบริษัทจำกัด เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ไปสั่งการชี้นำ จัดตั้ง กำหนดตัวบุคคล...มีการพบเส้นทางเงินที่ไปเข้ากลุ่มบริษัทเหล่านี้(บริษัทที่เข้าร่วมประมูล) และเบิกเงินกันผิดปกติในลักษณะการฟอกเงิน อะไรที่ได้ไปจากเงินที่มาจากการฉ้อโกงก็เข้าข่ายรับของโจรด้วย" นายสัก กล่าว
โฆษก คตส. กล่าวด้วยว่า นอกจากการตั้งข้อกล่าวหาของ คตส.แล้ว จะมีการส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อสอบประเด็นการฟอกเงินด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--