พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงขอบคุณประชาชนที่ให้ความกระตือรือร้นออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมเตรียมเลือกตั้งใหม่หากมีกรณีโหวตโนชนะ และเหตุทุจริต ไม่เกิน 28 เม.ย.นี้ เตรียมชง กกต.สั่งบัตรเลือกตั้ง 1,500 ใบจากนิวซีแลนด์เป็นบัตรเสีย ส่วนกรณีฉีกบัตร 20 จังหวัดเกิดจากพลั้งเผลอ-เมาสุรา ไม่มีเจตนาต่อต้านระบบ
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า กกต.ได้รับรายงานว่าบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรจากประเทศนิวซีแลนด์ 1,500 ใบ ส่งกลับมาไม่ทันเวลา ซึ่งตามกฎหมายต้องถือว่าเป็นบัตรเสีย แต่ต้องมีกระบวนการสั่งการ โดยในวันพรุ่งนี้ (25 มี.ค.) สำนักงาน กกต.จะเสนอ กกต.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาวินิจฉัย
สำหรับสาเหตุล่าช้าเบื้องต้นทราบว่า เป็นการขนส่งโดยสายการบิน 3 สายการบิน ซึ่งเครื่องบินต้องต่อเครื่องและมีปัญหาเครื่องบินดีเลย์ โดยบัตรถูกจัดส่งออกมาพร้อมกับประเทศอื่นๆ ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ซึ่งปกติต้องมาถึงเย็นวันที่ 23 มี.ค. แต่ปรากฏว่าบัตรเพิ่งถูกส่งมาถึงวันนี้ (24 มี.ค.) ทำให้ไม่สามารถจัดส่งไปยัง 350 เขตเลือกตั้งได้
เมื่อถามว่า กกต.จะรับผิดชอบอย่างไรกับสิทธิของ 1,500 คนที่เสียไป เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ก็รับผิดชอบตามกฎหมาย โดยการวินิจฉัยของ กกต. ซึ่งการพิจารณาของ กกต.ในวันพรุ่งนี้ ก็จะได้พิจารณาข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุและผู้รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ในอดีตก็เคยเกิดเหตุบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรส่งมาไม่ทันเวลา แต่ยืนยันว่า กกต.พยายามติดตามการขนส่งบัตรนอกราชอาณาจักรอยู่ตลอดเวลา โดยในส่วนของบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากประเทศอื่นๆ ก็ถูกส่งมาตามกำหนดและส่งไปยังเขตเลือกตั้งทุกเขตทันเวลา และมีการนำไปรวมนับพร้อมกับบัตรเลือกตั้งในวันนี้
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า เฉพาะวันนี้มีเรื่องร้องเรียน 91 เรื่อง แบ่งเป็นการร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วย 33 เรื่อง และร้องเรียนการกระทำของผู้สมัคร 58 เรื่อง ซึ่งเรื่องที่มีการแจ้งเหตุทั้งหมด จะถูกส่งกลับให้พื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลความผิดจะตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ผู้ตรวจการเลือกตั้ง พบการกระทำความผิดรวม 7 เรื่อง แยกเป็นแจกเงินซื้อเสียง 4 เรื่อง ข่มขู่ให้ลงคะแนน จำหน่วยสุรา สวมสิทธิเลือกตั้ง อย่างละ 1 เรื่อง
ส่วนกรณีการฉีกบัตรพบ 21 เรื่อง ใน 20 จังหวัด ประกอบด้วย ลำพูน สมุทรสงคราม อยุธยา ยโสธร เชียงใหม่ ตาก กรุงเทพฯ ปทุมธานี นครศรีธรรมราช อ่างทอง สระบุรี อุบลราชธานี นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา นครนายก ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สกลนคร อุดรธานี และลำปาง (2 กรณี) เบื้องต้นไม่ได้มีสาเหตุจากการต่อต้านระบบ แต่เป็นลักษณะพลั้งเผลอและเมาสุรา ซึ่งตำรวจจะสอบสวนเพื่อดูเจตนาการกระทำก่อนสรุปสำนวนคดี
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้วพบที่ชลบุรีและบุรีรัมย์ ซึ่งกฎหมายห้ามถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว แต่หากเป็นการถ่ายภาพบัตรโดยไม่เห็นผลคะแนนว่ากาให้กับผู้ใด ยังถือว่าเป็นการลงคะแนนโดยตรงและลับ ไม่ถือเป็นความผิด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ระบบการรายงานผลแบบเรียลไทม์ผ่านแรพพิทรีพอร์ต ได้เริ่มแสดงผลการนับคะแนนของทั้ง 92,320 หน่วยเลือกตั้ง และจะรายงานผลเฉพาะการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง อย่างต่อเนื่องไปจนถึง 95% ก็จะหยุดรายงานทันที
ส่วนจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะไม่มีการคำนวณจนกว่ากกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ 95% เนื่องจากในระหว่างนี้อาจต้องมีการสั่งเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสัดส่วนคะแนนที่จะนำมาคำนวณ
ในส่วนของสำนักงาน กกต. ตั้งเป้าที่จะพิจารณาเรื่องร้องเรียน ร้องคัดค้าน และเสนอ กกต.ให้ประกาศผลการเลือกตั้ง 95% ภายในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งจะอยู่ในกรอบระยะเวลา 150 วันที่ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 แต่ทั้งนี้ในประเด็นระยะเวลา 150 วัน ยังมีความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกัน โดยเห็นว่าระยะเวลาที่ กกต.ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้งภายใน 60 วันหลังการเลือกตั้ง ไม่รวมอยู่ในระยะเวลาดังกล่าว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะครบระยะเวลาในวันที่ 23-24 พ.ค. ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต.ว่าจะมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร
เลขาธิการ กกต. ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งใหม่ กรณีที่คะแนนโหวตโนชนะผู้ที่มีคะแนนสูงสุดว่า สำนักงาน กกต.ได้เตรียมแผนรองรับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งต้องเปิดรับผู้สมัครชุดใหม่ทั้งหมดตามกฎหมาย จึงต้องมีระยะเวลาในการเตรียมการ โดยวางแผนให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 28 เม.ย. แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่ กกต.เพิกถอนสิทธิสมัครชั่วคราว (ใบส้ม) หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) ที่ผู้สมัครยังเป็นชุดเดิม ก็จะมีการเลือกตั้งก่อนเวลาดังกล่าว
ส่วนกรณีที่มีคลิปทหารเกณฑ์เดินเข้าไปชะโงกดูการใช้สิทธิของเพื่อนทหารด้วยกัน ภายในหน่วยเลือกตั้งที่สนามเป้า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่โดยหลักการการลงคะแนนต้องเป็นความลับ ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป
"กกต. ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งสะท้อนถึงการตื่นตัวทางการเมือง คาดดว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ 80% ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยทั้ง 92,320 หน่วย สามารถปิดการลงคะแนนได้ตามเวลาเรียบร้อยทุกหน่วย" เลขาธิการ กกต.ระบุ