นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมการเลือกตั้งทั่วประเทศเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) ว่า แปลกใจที่จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิน้อยไปกว่าที่คาด ขณะเดียวกันไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ถูกโจมตีค่อนข้างมาก คงต้องให้คนที่อยู่ในวงการทั้งหลายวิเคราะห์กันไป หรือไม่เช่นนั้น ก็ให้เป็นเรื่องของผู้มีส่วนได้เสียและมีสิทธิไปจัดการกันเอง
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาลว่า มองว่าน่ากังวล เพราะถ้าตัวเลขใกล้เคียงยันกันแบบนี้ กำลังมองต่อไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาล แต่เข้าใจว่าความชัดเจนจะมีมากขึ้นกว่านี้ ก็ต่อเมื่อ 1. ได้ผลคะแนนมากถึง 95%
2. เมื่อประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการหรือใกล้จะเป็นทางการ ขณะนี้มันน้อยกว่า 24 ชั่วโมงหลังจากปิดหีบการนับคะแนน จึงยังมีความไม่แน่นอนอีกหลายอย่าง หากคิดจากประสบการณ์ทุกครั้งที่ผ่านมา จะมีการแจกใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง จะมีการร้องเรียน จะมีการคิดเรื่องเฉลี่ยบัญชีรายชื่อ ซึ่งเราไม่เคยทำมาก่อน แม้แต่เปอร์เซ็นต์ แม้แต่จุดก็สำคัญ เพราะฉะนั้นวันนี้ใช้วิธีคำนวณกันอย่างหยาบๆ เท่านั้น แต่ กกต.ก็กำหนดไทม์ไลน์ไว้แล้วว่าจะต้องสรุปผลอย่างเป็นทางการไม่เกิน 9 พ.ค. ส่วนการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลสามารถทำกันได้อยู่แล้วเสมอ แค่คุยกันไปแต่อาจจะยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
"เพราะแต่ละคน ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีต้นทุนในมือเท่าไร ของจริงเท่าไร หยาบๆ กันเท่าไร แต่ว่าไม่ต้องถึงกับรอประกาศทางการ 9 พ.ค. เพราะอาจจะลำบากและไม่ทันการณ์ ก็คุยกันไปในระหว่างนี้ อย่ามาพูดว่าใครมีสิทธิ พรรคใหญ่พรรคเล็ก ถ้าใครคิดว่าเป็นพรรคใหญ่อันดับ1 มีสิทธิก็คุยไปก่อน แต่ระหว่างนั้นก็ไม่ได้ตัดสิทธิพรรคเล็ก 2 เสียง 3 เสียง ที่เขาจะคุยกันอย่างไม่เป็นทางการเพราะทุกพรรคทุกคนก็ถือเป็นผู้แทนราษฎรด้วยกันทั้งสิ้น แต่ถึงเวลายืนเสนอในสภา อาจจะต้องให้พรรคที่ใหญ่ที่สุดเป็นคนเสนอชื่อก่อน แล้วก็ว่ากันตามกระบวนการตามกติกาในมาตรา 272" นายวิษณุ ระบุ