คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค เปิดแถลงข่าวภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุว่าจะมีการประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.350 เขตอย่างไม่เป็นทางการในเวลา 16.00 น.ของวันนี้ โดยพรรคเพื่อไทยระบุว่าชนะการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตที่ได้เสียงราว 137 ที่นั่ง มากกว่าอันดับ 2 ที่คาดว่าจะได้ที่นั่ง ส.ส.ในสภารวมทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ 112 ที่นั่ง จึงยืนยันว่ามีความชอบธรรมที่จะรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล
สำหรับพรรคพันธมิตรที่พรรคเพื่อไทยจะเชิญชวนให้เข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้นจะต้องมีอุดมการณ์และเจตนารมย์ทางการเมืองเดียวกันที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ และไม่สนับสนุนเผด็จการ โดยพบว่ามีหลายพรรค ทั้งนี้ การจัดตั้งบัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้มีความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาความทุกข์และความยากจนของประชาชนไทยให้หมดไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องใจที่จะเข้ามาทำงานรับไช้ประชาชนในครั้งนี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ระบุว่า จากนี้จะประสานกับพรรคการเมืองร่วมอุดมการณ์เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยหากรวมกับเสียงของพรรคเพื่อไทยแล้ว พรรคในกลุ่มนี้คาดว่าจะได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งแขตเข้ามามากกว่า 300 เสียง ซึ่งไม่นับรวมเสียงของพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย
พร้อมทั้งยืนยันว่า พรรคที่มีเสียง ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุดมีสิทธิที่จะจัดตั้งรัฐบาลมากกว่าจำนวนคะแนนที่ได้รับสูงสุด
"พรรคเพื่อไทยต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและการเมืองไทย พร้อมกับไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ และเดินหน้าทำตามกติกา ทำตามหน้าที่ที่ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยให้มีที่นั่ง ส.ส.มากที่สุดเข้ามาทำหน้าที่บริหารงานประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า"นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยังคงยึดหลักตามกติกาว่าพรรคที่ได้ผลรวมที่นั่งของ ส.ส.ในสภาเป็นอันดับ 1 ควรได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน ไม่ใช่ดูจากผลรวมที่มาจากคะแนนโหวตของประชาชนที่มาวัดความเป็นอันดับ 1 เพราะการมีที่นั่งในสภาฯจำนวนมากกว่า ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนที่เลือกมา และเป็นไปตามกติกาทางการเมืองที่ถูกต้อง
ส่วนการรวบรวมพรรคในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ก็คงต้องติดตามพรรคที่จะมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะมีกี่พรรค เพราะเท่าที่เห็นพรรคการเมืองที่ร่วมอุดมการณ์เดียวกับพรรคพลังประชารัฐมีเพียงพรรครวมพลังประชาชาติไทยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำให้พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและมีคะแนนเสียงรวมกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ไม่ต่ำกว่า 300 ที่นั่ง
ด้านการเลือกแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะต้องหารือกันในเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเข้าไปในสภาฯ ซึ่งประเด็นดังกล่าวพรรคเพื่อไทยต้องหารือกับคนในพรรค และพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลพร้อมกับการเชิญชวนพรรคที่มีอุดมการณ์และเจตนารมย์เดียวกับพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป โดยจะขอดูท่าทีทางการเมืองของพรรคต่างๆ และจะมาแถลงให้ประชาชนทุกคนได้ทราบอีกครั้ง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวเสริมว่า ไม่อยากให้ทุกคนต้องกังวลในเรื่องของแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี แม้ว่าผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคที่กำหนดให้เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ซึ่งรวมถึงตนเองจะไม่ได้เข้าไปเป็น ส.ส.ในสภา เพราะพรรคจะหารือกับพรรคที่เข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม
ส่วนความผิดปกติของการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นนั้น ทางพรรคเพื่อไทยก็จะดำเนินการในทางกฏหมายเพื่อให้ได้รับความชอบธรรม