"จากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พรรคพลังประชารัฐ ถือว่าได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย และมีคะแนนรวมสูงสุด 7,939,937 คะแนน จึงขอให้ความมั่นใจว่า พรรคจะดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป" หัวหน้า พปชร.ระบุ
นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ได้มีการหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้กรรมการบริหารพรรค มีมติมอบหมายให้ตนเองและนายสนธิรัตน์ ไปดำเนินการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม นายอุตตม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าพรรคที่จะไปเชิญเข้าร่วมรัฐบาลจะเป็นพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ โดยกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจึงไม่ขอพาดพิงพรรคใด ขอเวลาทำงานก่อน แต่เราจะไม่รอช้า เมื่อมีแนวทางที่เหมาะสมอย่างไรก็จะประกาศให้ประชาชนรับทราบ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าจะพึ่งเสียง ส.ว. 250 เสียงที่จะช่วยยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า พรรคจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ และพรรคเคารพสถาบัน ส.ว. ซึ่งการออกเสียงของ ส.ว.ถือเป็นเอกสิทธิ์
"พรรคให้ความเคารพสมาชิกวุฒิสภา และเชื่อว่า ส.ว.ก็มีความเป็นห่วงบ้านเมือง จึงควรเป็นเอกสิทธิ์ของส.ว.ในการพิจารณา ซึ่งทางพรรคไม่ขอก้าวล่วง" นายสนธิรัตน์ระบุ
เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ย้ำว่า พรรคจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคคนเดียวเท่านั้น เพราะถือว่าได้รับฉันทามติจากประชาชน ที่ไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป
พร้อมยืนยันว่า พรรคมีความชอบธรรมในการรวบรวมคะแนนเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการที่พรรคจะรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล เป็นการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยคะแนนนิยมของประชาชนทั้งประเทศจะไม่เสียเปล่า จึงนำไปสู่การคิดจำนวนส.ส.พึงมีของแต่ละพรรค ซึ่งอยู่บนคะแนนรวมของประชาชนทั้งประเทศ และพรรคพลังประชารัฐถือได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุด และมั่นใจว่าพรรคสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้