นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ โดยสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ประกอบด้วย
1. วันบังคับใช้ : ให้พระราชบัญญัตินี้ มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. บทนิยาม : เพิ่มนิยาม คำว่า "สถานประกอบการ" "กระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอาง" และ "คณะกรรมการ" เพื่อกำหนดขอบเขตของพื้นที่และภารกิจในการปฏิบัติให้ชัดเจน รวมทั้งเพื่อให้กระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอางเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3. เพิ่มส่วนที่ 1 กระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอาง : กำหนดให้องค์การอาหารและยา (อย.) มีการขึ้นบัญชีผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ในการประเมินเอกสารทางวิชาการ การตรวจวิเคราะห์ การตรวจสถานประกอบการ หรือการตรวจสอบ เพื่อให้กระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอางเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
กำหนดให้เลขาธิการ อย. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการเครื่องสำอาง มีอำนาจประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอาง และการได้มาซึ่งผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชนทั้งในและต่างประเทศ
กำหนดให้ รมว.สาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการเครื่องสำอาง มีอำนาจประกาศกำหนดค่าขึ้นบัญชีที่จะจัดเก็บจากผู้เชี่ยวชาญองค์กรผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชนทั้งในและต่างประเทศ และกำหนดค่าใช้จ่ายและค่าใช้จ่ายสูงสุด ที่จะจัดเก็บจากผู้ยื่นคำขอในกระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอาง
กำหนดให้ค่าขึ้นบัญชีและค่าใช้จ่ายที่จัดเก็บตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็นเงินของ อย. หรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน และให้ใช้จ่ายเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนด
กำหนดให้ รมว.สาธาณสุข โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การรับเงินและการจ่ายเงิน
4. บทเฉพาะกาล : ประกาศที่ออกตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 77/2559 ในส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้นำมาใช้บังคับกับส่วนที่ 1 กระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอาง และหมวด 2 การจดแจ้งและการรับจดแจ้งเครื่องสำอาง ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีประกาศ
เมื่อประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับแล้ว ให้ประกาศที่ออกตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 77/2559 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอางเป็นอันยกเลิก
อย่างไรก็ดี นายณัฐพร คาดว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้คงจะมีผลบังคับใช้ในรัฐบาลชุดหน้า เนื่องจากปัจจุบัน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้หยุดการพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ แล้ว