เลือกตั้ง'62: "มิ่งขวัญ"เปิดหน้ายันจับขั้วเพื่อไทย แจงไม่ร่วมแถลงข่าวเพราะนัดกระทันหัน

ข่าวการเมือง Thursday March 28, 2019 11:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ แถลงจุดยืนการเข้าร่วมรัฐบาลว่า เคยแสดงจุดยืนไว้ชัดเจนตั้งแต่ที่ตัดสินใจกลับมาทำงานการเมืองในรอบนี้แล้วว่าจะอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีเพียงเงื่อนไขเดียว ส่วนใครก็ตามที่บอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย แต่ภายหลังเกิดมีความไม่ซื่อสัตย์ ตนจะขอจัดการด้วยตัวเอง

"เจตนารมย์ของผม และพรรคเศรษฐกิจใหม่ ชัดเจนตั้งแต่วันแรกที่เริ่มกลับมาทำงานการเมืองเที่ยวนี้ บอกแล้วว่าจะอยู่ภายใต้ระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใน facebook ของผม ก็ยืนยันสถานภาพทางการเมืองว่าคิดอะไร มีเงื่อนไขนิดเดียว ใครที่บอกว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ไม่ซื่อสัตย์ ไม่สุจริต ไม่ต้องรอคนอื่นจัดการ เดี๋ยวผมจัดการเอง มันต้องชัดแบบนี้ ผลประโยชน์ประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ" นายมิ่งขวัญ ระบุ

ส่วนกรณีที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ ไม่ได้เดินทางไปเข้าร่วมการลงนามในสัตยาบันร่วมกับอีก 6 พรรคการเมืองที่นำโดยขั้วของพรรคเพื่อไทยนั้น นายมิ่งขวัญ ชี้แจงว่า คืนก่อนที่จะมีการแถลงข่าวดังกล่าวมีการติดต่อเข้ามา แต่ได้ปฏิเสธไปเนื่องจากมีนัดกับผู้ใหญ่ของพรรคไว้ก่อนแล้วว่าจะเดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอดูผลคะแนนของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งการแถลงข่าวดังกล่าวกระทันหันเกินไป จึงได้ปฏิเสธไป

"ตอนเย็น ปุบปับมานัดว่าจะแถลงข่าวตอนเช้า แต่ผมไม่ไปแถลง เพราะผมมีนัดสำคัญต้องไปกกต. แล้วพอตอนเช้า เขาก็แถลงข่าวกัน ประเด็นจึงเกิดปัญหาว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่หายไปไหน ผมยืนยันชัดเจนว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจุดยืน แต่ที่ไม่ไป หวังว่าจะเข้าใจเหตุผล ไม่ต้องมานั่งบอกอะไรมาก ถ้าบอกก่อนล่วงหน้าสักวัน ก็จะไป...เขาเพิ่งติดต่อมา ถ้าจะพูดจริงๆ คือมืดแล้ว ผมไปนัดผู้ใหญ่ไว้ จะยกเลิกกระทันหันได้อย่างไร อย่ามาบอกว่าผมไม่ไป แล้วไม่ต้องกลัว คนอย่างผมรักษาคำพูด คำไหนคำนั้น" นายมิ่งขวัญระบุ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่ายืนยันว่าจะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า "ครับ" สำหรับเหตุผลสำคัญที่เข้าร่วมนั้น นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า เพราะ 1.จะต้องเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.หากเศรษฐกิจไม่ดี คนไทยไม่มีความสุข ก็จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง 3. ระบบกติกาเป็นอีกเรื่อง 4.แม้จะเป็นฝั่งเดียวกัน แต่ถ้าไม่รักษาคำพูด ตนก็คงไม่ยอม

ทั้งนี้ นายมิ่งขวัญ ยังเชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะมีขึ้นได้อย่างแน่นอน ส่วนจะมีเสถียรภาพหรือติดขัดข้อกฏหมายอย่างไรนั้น คงเป็นเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจะต้องมาพิจารณากัน

"ประเทศไทยต้องดำเนินต่อไป ยังไงรัฐบาลก็ต้องตั้งได้ แต่จะมีเสถียรภาพหรือไม่ ติดขัดข้อกฎหมาย หรือรัฐธรรมนูญตรงไหนค่อยไปดู ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมีเยอะ...เงื่อนไขยังไงค่อยว่ากัน อย่าห่วงเลยว่าจะตั้งรัฐบาลไม่ได้" นายมิ่งขวัญ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการจับมือจัดตั้งรัฐบาลจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยกเว้นเขาเปลี่ยนกันเอง

"เรื่องเซ็น MOU ถ้าเซ็นแล้วไม่รักษาคำพูด จะมีประโยชน์อะไร ผมเป็นคนรักษาคำพูด จุดยืนทางการเมืองสำคัญ" นายมิ่งขวัญระบุ

ส่วนการสนับสนุนแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีหากร่วมงานกับฝั่งของพรรคเพื่อไทยนั้น นายมิ่งขวัญ กล่าวเพียงว่า ยังไม่ได้มีการหารือกันในรายละเอียดเรื่องนี้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่าหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ติดต่อมาบ้างหรือไม่ นายมิ่งขวัญ ตอบว่า บางคำตอบก็ไม่จำเป็นต้องตอบ ให้ไปคิดเอาเอง

ขณะเดียวกันนายมิ่งขวัญ ยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อกรณีที่พรรคพลังประชารัฐอ้างความชอบธรรมมาจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับฝั่งพรรคเพื่อไทย โดยกล่าวเพียงว่า ไม่ใช่หน้าที่จะไปวิจารณ์ ขอเอาตัวเองให้รอดก่อน

ส่วนกรณีที่ 6 พรรคการเมืองออกมาเรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยผลคะแนนเลือกตั้ง 100% ในทันทีนั้น นายมิ่งขวัญ แสดงความเห็นด้วย และมองว่าตรงไหนที่มีความไม่ชัดเจน หรือไม่โปร่งใส กกต.ก็ต้องออกมาพิสูจน์ให้ประชาชนเห็น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ