นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ทั้งประเทศ 100% รวม 81 พรรคการเมือง 35,532,647 คะแนน โดยพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนสูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
1.พรรคพลังประชารัฐ 8,433,137 คะแนน
2.พรรคเพื่อไทย 7,920,630 คะแนน
3.พรรคอนาคตใหม่ 6,265,950 คะแนน
4.พรรคประชาธิปัตย์ 3,947,726 คะแนน
5.พรรคภูมิใจไทย 3,732,883 คะแนน
6.พรรคเสรีรวมไทย 826,530 คะแนน
7.พรรคชาติไทยพัฒนา 782,031 คะแนน
8.พรรคเศรษฐกิจใหม่ 485,664 คะแนน
9.พรรคประชาชาติ 485,436 คะแนน
10.พรรคเพื่อชาติ 419,393 คะแนน
สำหรับจำนวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีทั้งสิ้น 51,239,638 คน จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 38,268,375 คน หรือคิดเป็น 74.69% ผู้ไม่มาใช้สิทธิ 12,971,263 คน หรือคิดเป็น 25.31%
ขณะมีจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ 38,268,366 ใบ แยกเป็น บัตรดี 35,532,645 ใบ หรือคิดเป็น 92.85% บัตรเสีย 2,130,327 ใบ หรือคิดเป็น 5.57% และบัตรโหวตโน 605,392 ใบ หรือคิดเป็น 1.58%
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผลการเลือกตั้งรายพรรคการเมืองที่ กกต.แถลงในครั้งนี้ ไม่ตรงกับเอกสารที่นำมาแจกให้กับผู้สื่อข่าวในห้องแถลง โดย กกต.ชี้แจงว่าให้ยึดตามตัวเลขที่ได้แถลงไปเนื่องจากเป็นผลล่าสุด ขณะที่ในเอกสารยังไม่ได้รวมผลของบางเขตเลือกตั้งที่ส่งมาล่าช้า
นายกฤช ยังชี้แจงถึงกรณีที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกับยอดบัตรที่ใช้ว่า อาจเกิดกรณีบัตรเขย่ง คือไปแสดงตนที่หน่วยเลือกตั้งแล้ว แต่ไม่ได้ใช้สิทธิหรือหย่อนบัตร อาจเป็นเพราะรอคิวนานหรือเกิดเหตุธุระกระทันหัน ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ ส่วนกรณีที่จำนวนบัตรดี ไม่ตรงกับการคำนวณคะแนนรวมของทุกพรรคการเมืองนั้น อาจมีสาเหตุมาจากนับบัตรที่หน่วยเลือกตั้งมีข้อผิดพลาด แต่ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบกับคะแนนรวม
กรณีที่มีกระแสข่าวในสื่อโซเชียลที่ระบุว่า กกต.ตั้งธงให้ใบเหลืองใบแดงผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แล้วนั้นยังไม่เป็นความจริง แต่ขณะนี้ กกต.ได้รับเรืองร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งไว้ทั้งสิ้น 186 เรื่อง เป็นทั้งในส่วนที่เป็นความปรากฎ 40 เรื่อง และคำร้อง 71 เรื่อง กกต.จะตรวจมูลความจริงเป็นรายกรณีเละตั้งกรรมการขึ้นมาไต่สวน
ทั้งนี้ กกต.จะเอาผิดผู้โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าว
ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรปัตย์ รองเลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ในกระบวนการของ กกต.เมื่อมีการกล่าวหาไม่ว่าจะเป็นความปรากฎหรือคำร้อง ก็จะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนหรือไต่สวน หากมีมูลก็จะแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบเพื่อให้โอกาสแก้ข้อกล่าวหาตามกฎหมาย จากนั้นจะสรุปสำนวนเสนอให้ กกต.ชุดใหญ่พิจารณา โดยเรื่องส่วนใหญ่จะเกิดใกล้กับวันเลือกตั้ง รวมทั้ง ณ วันเลือกตั้ง รวมเรื่องทั้งสิ้น 146 เรื่อง เมื่อเวลาผ่านมาก็มีเพิ่มเข้ามาอีก และยังมีทยอยเข้ามาอีกเรื่อย ๆ
นายกฤช กล่าวอีกว่า การรายงานผลคะแนนที่ผ่านเป็นแบบไม่เป็นทางการ เพราะรายงานเข้ามายังไม่ครบทั้ง 100% โดยรายงานเข้ามาหลายช่วงเวลา จนถึงสุดท่ายที่กกต.คือขีดเส้นไว้คือไม่เกิน 95% ข้อมูลที่ กกต.ได้มาในระหว่างนั้นเป็นข้อมูลดิบ หลายสำนักข่าวก็นำไปคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อกันตามสูตรของแต่ละสำนักจึงอาจมีการผิดพลาดคลาดเคลื่อน
อย่างไรก็ตาม การคำนวณจำนวน ส.ส.ที่ถูกต้องครบถ้วนจะสามารถทำได้เมื่อมีการประกาศผลเลือกตั้งในวันที่ 9 พ.ค.ก็จะเห็นคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่แท้จริง เพราะยังอาจต้องมีการเลือกตั้งซ่อมอีกในบางเขต ซึ่งผลต่อคะแนนที่จะต้องนำรวมกันใหม่เพื่อคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออีกครั้ง
สำหรับผู้ที่ต้องการดูคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ในแต่ละหน่วยเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งสามารถขอดูได้ที่สำนักงาน กกต.จังหวัด