นายคริส โปตระนันทน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 กทม. พรรคอนาคตใหม่ ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งใหม่ในเขตที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมกับขอเข้าสังเกตการณ์ในการเลือกตั้งใหม่ด้วย โดยให้เหตุผลว่า การขอให้จัดเลือกตั้งใหม่ในเขต 6 กทม. เนื่องจากปรากฎพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมือง หรือการกระทำอันอาจเป็นเหตุให้มีการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ในแต่ละกรณีดังนี้
1. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 33 และ 34 เขตพญาไท ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่ทหาร 1 นาย เข้าไปยืนตรงบริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนนของหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว เพื่อคอยดูว่าทหารที่เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครพรรคการเมืองใด ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวขัดกับมาตรา 85 ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จะต้องเป็นไปโดยลับ นอกจากนี้ในระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ข้อ 148 วรรคแรก บัญญัติว่า ในระหว่างเวลาเปิดการออกเสียงลงคะแนน จะให้ผู้ใดเข้าไปในที่เลือกตั้งไม่ได้ เว้นแต่ผู้มีหน้าที่เลือกตั้ง และผู้ที่เข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะบริเวณที่ตั้งคูหาออกเสียงลงคะแนน เว้นแต่ในกรณีจำเป็น และให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งบันทึกเหตุผลความจำเป็นไว้ในรายงานเหตุการณ์ประจำที่เลือกตั้ง (ส.ส.5/6)
2. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 10 แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี ปรากฎพฤติการณ์ว่า หลังปิดการออกเสียงลงคะแนนแล้ว ระหว่างการขานคะแนนนั้น เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวได้แสดงบัตรเลือกตั้งที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ และพรรคการเมืองอื่นในบัตรใบเดียวกันขึ้นมา ซึ่งเป็นกรณีการทำเครื่องหมายลงคะแนนเกินจำนวน 1 คน ซึ่งตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ข้อ 156 (4) บัญญัติว่า บัตรเลือกตั้งที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นบัตรเสียและไม่ให้นับเป็นคะแนน (4) บัตรที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครเกินจำนวน 1 คน ดังนั้นจึงถือว่าบัตรดังกล่าวเป็นบัตรเสียและไม่ให้นำมานับคะแนน แต่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง กลับขานให้เป็นบัตรดีของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ โดยอ้างว่าลายเส้นของเครื่องหมายลงคะแนนในช่องของผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ มีลายเส้นที่เข้มกว่าเครื่องหมายลงคะแนนในช่องของผู้สมัครจากพรรคอื่น
3. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 23 แขวงจอมพล เขตจตุจักร ปรากฎพฤติการณ์ว่า หลังปิดการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว มีกระดาษขนาด 3x4 นิ้ว ซึ่งระบุข้อความอันไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามีใจความอย่างไรลงไปอยู่ในหีบบัตรเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าว เมื่อมีคนทักท้วงว่ากระดาษดังกล่าวคืออะไรและเขียนข้อความอย่างไร เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งกลับไม่ชี้แจง และอ้างระเบียบ กกต.ว่าไม่สามารถอนุญาตให้ดูกระดาษดังกล่าวได้
4. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 27 แขวงจอมพล เขตจตุจักร ปรากฎพฤติการณ์ว่า หลังปิดการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว ระหว่างการขานคะแนน เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวได้ขานคะแนนให้แก่ผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่เป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีการขีดคะแนนว่าเป็นคะแนนของผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ลงบนแบบขีดคะแนนแต่อย่างใด
5. จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 ณ หน่วยเลือกตั้งบางหน่วย ของเขตเลือกตั้งที่ 6 กรุงเทพฯ มีจำนวนมากจนผิดปกติวิสัยของการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง ดังนี้
- หน่วยที่ 18 แขวงพญาไท มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 555 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 555 คน
- หน่วยที่ 21 แขวงพญาไท มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 524 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 524 คน
- หน่วยที่ 33 แขวงพญาไท มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 407 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 407 คน
- หน่วยที่ 25 แขวงพญาไท มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 595 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 595 คน
- หนวยที่ 8 แขวงพญาไท มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 468 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 468 คน
กรณีนี้ จึงเห็นได้ชัดแจ้งว่า ณ หน่วยเลือกตั้งดังกล่าวของเขตเลือกตั้งที่ 6 กรุงเทพฯ ได้ปรากฎพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือกระทำการอันอาจเป็นเหตุให้มีการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ดังนั้น จึงขอให้ กกต.ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงของพฤติการณ์ดังกล่าว และดำเนินการจัดการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 6 กรุงเทพฯ ด้วย