นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน พร้อมด้วยคุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภริยา ทำพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
"ผมเป็นนักการเมือง ผมเห็นว่าเมื่อผมจะสามารถทำการเมืองเพื่อพิสูจน์ได้ ผมก็ทำการเมืองนี้ และบัดนี้เป็นข้อพิสูจน์ ผมขอให้ใครก็ตามแต่ที่เคยดูหมิ่นด้วยการว่ากล่าว ด้วยการเขียนหนังสือ ด้วยการพูดจาถากถาง เหมือนกับผมเป็นคนที่ไม่มีความสามารถ เป็นคนที่ไม่เคยรู้เรื่องต่างๆ นั้น ผมขอยืนยันว่าท่านต้องให้เวลาผมทำงานนี้"นายสมัคร แถลงหลังเสร็จสิ้นพิธี
นายสมัคร ขอโอกาสที่จะทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรี นำทีมงานทั้งคณะรัฐมนตรีที่ประกอบด้วยรัฐบาลผสม 6 พรรคการเมืองทำงานบริหารประเทศ ภายหลังจากที่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยระบุว่าตนเองเป็นผู้ที่รู้เล่ห์กลทางการเมืองดีเพียงพอที่จะนำรัฐบาลทำงานไปได้แน่นอน
"ขอให้ท่านเชื่อใจว่าผมจะทำหน้าที่ดูแลงานของบ้านเมืองนี้ งานการเมืองที่บริหารกันนั้น เหมือนรถยนต์ ถ้าใครเห็นรถยนต์คันใหม่รุ่นใหม่ที่สุดจะขับนั้น ถ้าขับเป็นแล้วเพียงแต่ถามว่าพวงมาลัยอยู่ข้างไหน เกียร์กระปุกหรือออโตเมติก มันจะมีเครื่องอยู่ตรงไหน ที่ปัดน้ำฝนอยู่ตรงไหน ถ้าให้ปลอดภัยก็ดูเบรค ดูน้ำมันเครื่อง ดูน้ำมันเต็มถัง เท่านั้นก็ลองขับ ใครโชคดีก็ขับถนนใหญ่ 8 ช่อง 9 ช่อง 10 ช่อง ไม่มีปัญหา แต่โชคไม่ดีก็อาจจะเริ่มขับตอนกลางคืน ถนนขรุขระขึ้นเนินขึ้นเขา ขับถนนที่ไม่ปกติ
แน่นอน ผมมาเป็นหัวหน้ารัฐบาลและจะขับรถคันนี้ในเวลาที่ไม่ปกติ ผมขอวิงวอน โปรดให้ความสนับสนุนรัฐบาลที่ตั้งขึ้นใหม่เป็นรัฐบาลผสมจะชั่วดีถี่ห่างก็เป็นคนไทยด้วยกัน มาจากพรรคการเมืองที่ตั้งใจด้วยกัน 6 พรรค จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองนี้ให้เดินหน้าต่อไปได้
ขอยืนยันว่าที่ต้องพูดอย่างนี้เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาบังคับให้ผมต้องพูด ผมถูกดูหมิ่นดูแคลนจากผู้คนในแวดวงที่ผมจะไม่ออกชื่อ ผมจะยอมอดทนอดกลั้นต่อไป ผมจะทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองนี้ในความรับผิดชอบดังที่ได้ประกาศไว้ ขอให้ท่านทั้งหลายโปรดให้กำลังใจด้วย"นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร ยังกล่าวตอนหนึ่งว่า ผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งพรรคพลังประชาชนได้รับเสียงข้างมาก เป็นข้อพิสูจน์ว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการกล่าวหาว่าบางบุคคลไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
"ใครก็ตามแต่ที่บังอาจในอดีตได้เอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาทำการเหยียบย่ำผู้คนอื่นโดยการกล่าวหาว่าเขาไม่จงรักภักดี ข้อหานี้เป็นข้อหาร้ายแรง ผมแน่ใจว่าพี่น้องประชาชนคนไทยเสียงข้างมากที่ได้แสดงตัวเลขให้เห็น โดยตัวเลข 233 นั้นอย่างน้อยที่สุดไม่ได้เกี่ยวกับโรงศาล แต่เกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดว่าคนที่ได้กล่าวหานั้น เขาไม่ได้ไม่จงรักภักดีอย่างที่ไปกล่าวหากัน เรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิตของคนทั้งชีวิต ทั้งครอบครัวที่โดนเกิดเหตุ"นายสมัคร กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--