นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงกรณีพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกในความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 116 และให้ไปรายงานตัวที่ สน.ปทุมวัน ในวันที่ 6 เม.ย.นี้ว่า การถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกในครั้งนี้เป็นความพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของฝั่งเผด็จการ และไม่กังวลว่าจะถูกดำเนินคดีความ ซึ่งพร้อมกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคดีความที่ตนเอวและนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ต้องเผชิญในขณะนี้ ไม่มีพื้นฐานทางกฏหมายที่เพียงพอที่จะลงโทษได้ และไม่ส่งผลต่อความนิยมของพรรค
นายธนาธร ยืนยันว่า ในส่วนคดีความของนายปิยบุตรแม้จะถูกโจมตีหนัก แต่ยังมีกำลังใจที่เข้มแข็ง และถือเป็นเสาที่สำคัญของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเรื่องนี้นายปิยบุตรได้ชี้แจงผ่านรายการโทรทัศน์และเฟซบุ๊คส่วนตัวไปแล้ว
"ผมคิดว่าการใช้เรื่องสถาบันก็ดี เรื่องคุณทักษิณก็ดี มาโจมตีศัตรูทางการเมืองมันเป็นเรื่องเก่า คำถามก็คือ จะอยู่กับอดีตแบบนี้ไปเรื่อยๆ หรือจะเดินหน้าไปสู่อนาคต...กลุ่มคนที่ใช้การเมืองเก่า เล่นงานคู่ต่อสู้ทางการเมือง คือ กลุ่มคนที่พยายามดึงประเทศไทยไว้อยู่ในอดีต พรรคอนาคตใหม่ต้องการพาสังคมไทยเดินไปข้างหน้า เดินไปสู่อนาคตคนเท่าเทียมกัน ประเทศไทยก้าวทันโลก อย่าใช้ข้อกล่าวนี้มาทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองอีกเลย" นายธนาธร กล่าว
นอกจากนี้ นายธนาธรได้ชี้แจงถึงกรณีเหตุการณ์ที่ทำให้โดนข้อหา 116 ผ่านเฟซบุ๊คว่า โดยยอมรับว่าในช่วงเย็นของวันที่ 24 มิ.ย.58 อยู่ที่หน้า สน.ปทุมวันจริง แต่มิใช่ไปในฐานะนายทุนของกลุ่มเคลื่อนไหว แต่ไปให้กำลังใจในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีสิทธิและอิสระในความคิดและความเชื่อของตนเอง
"เชื่อว่าพวกเขากำลังทำในสิ่งซึ่งเป็นคุณต่อสังคมในระยะยาว ดังนั้นผมจึงไปให้กำลังใจเขา...ผมไม่มีส่วนในการกำหนดการเคลื่อนไหวของพวกเขาแม้เพียงน้อยและไม่มีความประสงค์จะทำเช่นนั้น และหากต่อให้ผมมีความประสงค์เช่นนั้นจริงก็คงจะล้มเหลว เพราะกลุ่มบุคคลที่มีหัวใจแข็งแกร่งปานหินผาเยี่ยงนั้นย่อมไม่ให้ใครจูงจมูกได้ง่าย"นายธนาธร ระบุ
พร้อมกันนั้น นายธนาธร ยังชี้แจงว่าไม่เคยเข้าร่วมหรือมีส่วนรู้เห็น หรือก่อการใดๆ ในขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งไม่เคยข้องเกี่ยวหรือรับเงินจากนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ และ ไม่เคยยุ่งเกี่ยว ชักจูงหรือมีอิทธิพลทางความคิดต่อกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ การกระทำของพวกเขาล้วนมาจากเจตจำนงอันแน่วแน่และเป็นอิสระทั้งสิ้น
"ถ้าเหตุเกิดลำพังเพียงโจมตีผมนั้น ผมคงไม่มีความประสงค์จะตอบโต้อันใด เนื่องด้วยการใส่ความอย่างมดเท็จนี้ไม่ใช่เป็นครั้งแรกและหาได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริงไม่ หากแต่ครั้งนี้การใส่ความผมกระทบกระเทือนถึงกลุ่มนักศึกษาที่กำลังถามหาประชาธิปไตยด้วยการเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญกับกลุ่มพลังอประชาธิปไตย ดังนั้นจึงไม่เป็นธรรมกับพวกเขาเท่าไหร่หากผมจะนิ่งเฉย"นายธนาธร ระบุ