นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เดินทางไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้เสนอความเห็นไปยังศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มี.ค.62 เป็นโมฆะหรือไม่ รวมทั้งการกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่
โดยนายเรืองไกร มองว่ามีหลายประเด็นที่เป็นข้อสงสัยและยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ทั้งกรณีรายงานตัวเลขนับคะแนนเลือกตั้ง และจำนวนผู้มาใช้สิทธิที่มีตัวเลขต่างกัน ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงต่อผลการเลือกตั้งจาก 92,230 หน่วยที่อาจไม่ตรงกัน และกรณีนี้พรรคการเมืองต่างเรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยผลคะแนนของทุกหน่วยเลือกตั้งผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน กรณีที่ กกต.ชี้แจงเรื่องจำนวนผู้มาใช้สิทธิ และผลการนับคะแนนเลือกตั้งที่ออกมาไม่ตรงกัน โดยระบุว่าเป็นบัตรเขย่ง ซึ่งเกิดจากการนับคะแนนที่ยังไม่แล้วเสร็จ และเป็นการนับคะแนนเพียงแค่ 90% นั้น แสดงว่าการนับคะแนนอาจไม่เป็นไปตามระเบียบ กกต. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 117, 120, 123 เนื่องจากการนับคะแนนต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ห้ามหยุดพัก รวมทั้งกรณีที่ กกต.อ้างว่า ผลการนับคะแนนที่คลาดเคลื่อนส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยังไม่ได้นำคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรอีกกว่า 2 ล้านใบมานับรวม รวมถึงการไม่ได้นำบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์มานับรวมด้วย
"จึงมีเหตุสมควรให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องส่งเรื่องให้ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยเร็ว ก่อนที่ กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งในวันที่ 9 พ.ค.นี้" นายเรืองไกรระบุ
ด้านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่า จะเร่งตรวจสอบคำร้องทั้งในแง่ของข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง เพื่อนำเสนอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาโดยเร็วว่าคำร้องของนายเรืองไกรดังกล่าว อยู่ในอำนาจการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ และหากเข้าข้อกฎหมาย จะต้องส่งเรื่องไปให้ศาลใดพิจารณาวินิจฉัย