นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.มีมติสั่งให้ยกเลิกผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.เชียงใหม่ เขต 8 และให้จัดการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎต่อ กกต.ว่า นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 ให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชนเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง
พร้อมกันนั้น กกต.ยังมีมติสั่งระงับสิทธิรับสมัตรเลือกตั้งของนายสุรพลไว้ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 ปี และให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของนายสุรพล รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุรพลด้วย
นายแสวงยังปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงรายละเอียดของพฤติการณ์นายสุรพลที่ทำให้ กกต.มีมติให้ใบส้มดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวน ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ แต่ที่ผ่านมา กกต.ได้ให้โอกาสนายสุรพลมาชี้แจงข้อกล่าวหาตามสมควรแล้ว ส่วนที่มีการระบุว่าเป็นพฤติการณ์เรื่องการบริจาคเงินให้กับวัดนั้น เพราะตามกฎหมายเลือกตั้งได้บัญญัติไว้ชัดเจนว่าไม่ให้มีการให้ทรัพย์สินกับวัดและโรงเรียน
ส่วนคะแนนของผู้สมัครเขต 8 จ.เชียงใหม่ทั้งหมดที่ได้จากการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. กกต.จะไม่นำไปรวมกับคะแนนที่ได้จากเขตเลือกตั้งอื่นๆ เพื่อคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะมีการประกาศรับรองพร้อมกับ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง รวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ในวันที่ 9 พ.ค.62 โดยจะต้องรอคะแนนของเขต 8 จ.เชียงใหม่ ที่จะได้จากการเลือกตั้งใหม่ โดยเขตดังกล่าวจะเป็น 1 ใน 17 เขตหรือคิดเป็นร้อยละ 5 ที่กฎหมายกำหนดให้ กกต.สามารถเก็บไว้พิจารณาได้กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าอาจได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต
ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลจากนายสุรพลว่าได้ให้เงินถวายทำบุญเป็นค่าเทียนบูชาและพุทธบูชากับวัดแห่งหนึ่ง ไม่เกี่ยวข้องกับการทอดผ้าป่า ไม่มีเหตุจูงใจในการเลือกตั้ง เพราะพระไม่มีสิทธิเลือกตั้ง และคะแนนในหน่วยเขตนี้ก็แพ้คู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม กกต.ฟังว่าเป็นการให้ทรัพย์สินและประโยชน์อันจะทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม จึงสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะนายสุรพลมีคะแนนเป็นอันดับ 1 พรรคคงจะทำอะไรไม่ได้เพราะกฎหมายให้คำสั่งเป็นที่สุดเป็นอำนาจของ กกต.ที่เพิ่มเข้ามาในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จึงเท่ากับพรรคเพื่อไทยจะเสียที่นั่งไปหนึ่งที่และไม่มีสิทธิส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งใหม่