นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจกใบส้มนายสุรพล เกียรติไชยากร ว่าที่ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย มองว่า กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นข้อหาที่เบาบางมากจนแทบไม่น่าจะมีความผิด เพราะการให้เงินทำบุญเป็นหน้าที่ทางสังคมเป็นหน้าที่ชาวพุทธ และพระภิกษุสงฆ์ก็ไม่มีสิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ
นอกจากนั้น เมื่อเทียบเคียงกับกรณีที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทย ร้องเรียนต่อ กกต.นครสวรรค์ ว่าผู้สมัครบางพรรคการเมืองปราศรัยโจมตี ติดป้ายในที่ห้ามติด ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.แต่เรื่องกลับไม่มีความคืบหน้า ต่างจากกรณีนายสุรพล มีแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นใช้เวลาไม่กี่วันมีการพิจารณาลงมติทันที จึงสงสัยว่า กกต.ใช้หลักเกณฑ์ใดในการพิจารณา หรือใช้ดุลพินิจในลักษณะที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้สมัครหรือไม่ ซึ่งในมาตรา 69 ตาม พ.ร.บ.กกต. ระบุไว้ชัดเจน หากผู้ไดกระทำการโดยมิชอบหรือละเว้นโดยหน้าที่ ต้องได้รับโทษจำคุก 5 ปี
"ประเด็นนี้ที่นครสวรรค์ มีหมายเรียกสอบพยานในชั้นแรกๆเลย เราไปร้องกกต.นครสวรรค์ 20 มีนาคม จนบัดนี้เวลาล่วงเลยมาหลายวันมากแล้ว ขณะที่กรณีเชียงใหม่ เขต 8 มีการร้องไปไม่กี่วัน ประมาณอาทิตย์หนึ่งมีมติออกมาแล้ว ทำให้เราเห็นว่า มีประเด็นต่าง 2 ประเด็นใหญ่ในเรื่องเวลา เวลาพรรคเพื่อไทยไปฟ้องนานมาก กว่าจะมีการวินิจฉัยทางใด แต่กรณีเราตกเป็นผู้ต้องหาใช้เวลาไม่กี่วัน เรื่องที่ 2 ข้อหาบางๆ ก็ดำเนินคดีได้ แต่กับข้อหาพรรคพลังประชารัฐ ข้อหาชัดๆกลับไม่มีท่าทีใดๆ ถือเป็นข้อกังขา"นายชุมสาย กล่าว
ส่วนจะมีการฟ้องร้อง กกต.หรือไม่นั้น นายชุมสาย กล่าวว่า ยังไม่ฟันธง แต่สภาพเป็นลักษณะที่สังคมรู้สึกได้ หรือผู้ถูกกระทำรู้สึกได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น กฎหมายเปิดช่องให้สามารถยื่นฟ้องได้ ตาม พ.ร.บ.กกต.มาตรา 69 โดยยืนยันว่า ตรงนี้ไม่ได้ข่มขู่ใดๆ แต่ถึงเวลาที่รักษาสิทธิ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่ กกต.ระบุว่ามี 3 สูตรในการคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า พรรคเพื่อไทย เคยยื่นสูตรคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ กกต.ไปแล้ว โดย กกต.ต้องยึดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งมาตรา 128 เท่านั้น ถึงจะเป็นที่ยอมรับได้ สูตรต่างๆที่เสนอมาให้ กกต. หากไม่เป็นไปตามกฎหมายใน 2 มาตราดังกล่าว จะไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้ เชื่อว่า กกต.คงไม่น่าจะทำอะไรที่อยู่นอกเหนือกฎหมาย
ส่วนกรณีการตรวจสอบการถือหุ้นสื่อของส.ส.พรรคพลังประชารัฐนั้น นางลดาวัลลิ์ กล่าวว่า ฝ่ายกฏหมายของพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ หากได้ข้อสรุปอย่างไรจะมีการชี้แจงอีกครั้ง