นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ ย่านเกียกกายว่า มีความเป็นไปได้ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้องขยายสัญญาจ้าง บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ออกไป เพราะขณะนี้มีความล่าช้าในการติดตั้งระบบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและสาธารณูปโภค ของ บมจ.แอ็ดวานซ์ อินเฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) ที่สัญญาจ้างจะครบกำหนดช่วงเดือนมิถุนายน 2563 ส่วนจะขยายเวลาให้จำนวนเท่าใดนั้น เบื้องต้นต้องรอให้ทาง STEC เป็นผู้เสนอ จากนั้นคณะที่ปรึกษาและติดตามการก่อสร้างของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง ดังนั้นจึงไม่สามารถตอบได้ว่าจะขยายสัญญาบริษัทก่อสร้างให้เท่ากับ AIT หรือไม่
ล่าสุด การก่อสร้างอาคารรรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ ย่านเกียกกาย มีความคืบหน้ากว่า 60% โดยส่วนโครงสร้างอาคารเสร็จ 100% ส่วนที่เหลือคืองานตกแต่งภายในที่ต้องรอสถาปนิกของ STEC เข้าดำเนินการ โดยการตกแต่งภายในดังกล่าวต้องทำควบคู่กับการติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและสาธารณูปโภค
อย่างไรก็ตาม ในการก่อสร้าง ตกแต่งภายใน และติดตั้งระบบไอซีทีนั้น ตนพยายามประสานให้ทั้ง 2 บริษัทดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แต่เชื่อว่าจะทำไม่แล้วเสร็จได้ทันตามกรอบสัญญาจ้างรอบที่ 3 ที่กำหนดให้ STEC ดำเนินก่อสร้างและตกแต่งภายในให้แล้วเสร็จ 31 ธันวาคม 2562
"พยายามเร่งรัดให้ผู้รับจ้างทำให้เสร็จโดยเร็ว แต่คงไม่ทันการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกประธาน รองประธานของทั้ง 2 สภา และนายกรัฐมนตรี" นายสรศักดิ์ กล่าว
สำหรับสถานที่ที่จะใช้ประชุมชั่วคราวเพื่อดำเนินกระบวนการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา และรองประธานของทั้ง 2 สภานั้น นายสรศักดิ์ กล่าวว่า จะใช้ที่ห้องประชุม บมจ.ทีโอที โดยภายในสัปดาห์หน้าจะทำสัญญาเช่ากับ บมจ.ทีโอที เป็นเวลา 1 เดือน แต่ก่อนการทำสัญญาเช่าต้องต่อรองเรื่องราคาค่าเช่า และหลังจากเลือกประธาน รองประธานของทั้ง 2 สภาแล้วเสร็จ ตนจะหารือกับประธานรัฐสภาอีกครั้ง ต่อข้อเสนอที่จะใช้ห้องประชุมสุริยัน เพื่อประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีพื้นที่ที่รองรับ ส.ส.ได้ 500 คน