นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ส.ส.กทม.และ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ประกอบด้วย นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ, นายประสิทธิ์ มะหะหมัด, น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์, น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ, นายจักรพันธ์ พรนิมิตร, นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา, น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์, นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์, น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์, นายศิริพงษ์ รัสมี, น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์, นายชาญวิทย์ วิภูศิริ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถ.เกียกกาย
นายพุทธิพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้ชัดเจนว่าพรรคพลังประชารัฐมีพันธมิตรที่มีแนวทางการทำงานใกล้เคียงกัน แต่ต้องให้เกียรติแต่ละพรรคเพื่อดำเนินการภายในพรรค เช่น การประชุม และคัดเลือกหัวหน้าพรรคก่อน รวมไปถึงพรรคเล็กที่ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจด้วย
ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ มั่นใจว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเชื่อในการตัดสินใจของพรรคร่วมรัฐบาลที่ได้พูดคุยกันไว้ หากตัดสินใจภายใต้ประโยชน์ของประเทศชาติ
นายพุทธิพงษ์ ยอมรับว่า จำนวนเสียง ส.ส. 251 เสียงในสภา ถือเป็นเสียงสำคัญ เพราะเกินกึ่งหนึ่งสามารถผ่านกฎหมายสำคัญได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น เสถียรภาพของสภาก็เดินต่อได้ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ ส.ส.ทุกคนต้องทำงานให้หนัก รับผิดชอบหน้าที่อย่าเคร่งครัดในการทำงานมากขึ้น การที่ตัวเลขใกล้เคียงกับฝ่ายค้านถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้ ส.ส.ทุกคนมีความรับผิดชอบ ไม่สามารถขาดประชุมสภาได้ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามถึงตัวเลข 255 ของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ต้องรอภายหลังการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก่อนหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า จำเป็นต้องรอ เพราะคาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาลหลังจากนั้น
ส่วนกระแสข่าวเรื่องการตกลงตำแหน่งรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงไม่ลงตัว จนเป็นเหตุให้มีขั้วที่ 3 เตรียมจับมือตั้งพรรคการเมืองแข่งกับพรรคพลังประชารัฐนั้น นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เพราะทุกพรรคได้รับเลือกจากประชาชน จึงเป็นเรื่องปกติที่ทำได้ แต่ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าพรรคพลังประชารัฐและพันธมิตรจะสามารถตั้งรัฐบาลได้ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง เนื่องจากการทำงานระยะยาว ทั้งการบริหารราชการแผ่นดิน และการแก้ปัญหาให้ประชาชนจะต้องมีเสถียรภาพ
รวมถึงมีกระแสข่าวว่าบางพรรคการเมืองไม่พอใจที่พรรคพลังประชารัฐรวบโควต้ากระทรวงเศรษฐกิจไว้ทั้งหมดนั้น นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ยังเร็วไปที่พูดคุยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีในขณะนี้ เพราะหากจะเป็นรัฐบาลร่วมกันก็ต้องฟังซึ่งกันและกัน รวมทั้งฟังแนวทางบริหารของทุกพรรค เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และพรรคพลังประชารัฐไม่จำเป็นต้องได้กระทรวงหลักเท่านั้น ทุกอย่างอยู่ภายใต้การทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นก็ทำงานด้วยกันลำบาก
พร้อมทั้งปฏิเสธกระแสข่าวนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยไม่พอใจที่พรรคพลังประชารัฐเก็บเก้าอี้รัฐมนตรีของกระทรวงคมนาคมไว้ ส่วนจะให้โควต้านี้กับพรรคภูมิใจไทยเลยหรือไม่ คงตอบไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจตันสินใจ
ส่วนกรณีที่มีชื่อตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปเช่นกันที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะยังมีพรรคร่วมอีกหลายพรรค และทุกคนมีความพร้อมทำงานทุกระดับ ขณะเดียวกันปฏิเสธกระแสข่าวแกนนำกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีว่าไม่เป็นความจริง