นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวภายหลังรับหนังสือรับรอง ส.ส.จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยได้สัญญากับประชาชนว่า ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทุกคน จะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ จะไม่นำเงินภาษีของประชาชนมาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว จะไม่มีการคอร์รัปชั่นหรือใช้อำนาจที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย โดยเชื่อมั่นว่า ส.ส.ของพรรคทุกคนยึดมั่นในอุดมการณ์เดียวกัน จะไม่มีใครยกมือสนับสนุนให้กับการสืบทอดอำนาจ และทางพรรคฯ ไม่ได้มีการให้ ส.ส.ของพรรคเซ็นใบลาออกไว้ล่วงหน้า
นายธนาธร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทยว่า การลงนามในสัตยาบันร่วมกันหลังการเลือกตั้งนั้น เป็นการสร้างแนวร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่วนการที่จะร่วมรัฐบาลกับใครยังอยู่ในขั้นตอนที่กำลังพูดคุยกันอยู่
แต่หากพิจารณาจากพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จะมีทั้งหมด 3 พรรค ซึ่งมีเสียงรวม 121 เสียงเท่านั้น ยังไม่ถึงครึ่งของส.ส.ในสภา จึงอยากให้พรรคการเมืองที่เคยพูดถึงจุดยืนตอนหาเสียง เคารพในจุดยืนที่เคยให้ไว้กับประชาชน เช่นเดียวกันขอให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบพรรคการเมืองที่เคยให้จุดยืนและนโยบายไว้ ว่าได้ดำเนินการตามสัญญาหรือไม่ โดยเชื่อว่าหากทุกพรรคที่มีจุดยืนและอุดมการณ์เดียวกัน เมื่อรวมกันแล้วจะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา และสามารถหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.ได้
ส่วนจะเกิดขั้วการเมืองใหม่หรือไม่นั้น นายธนาธร กล่าวว่า ต้องเคารพคนที่กำลังเจรจาอยู่ หากจะพูดในตอนนี้ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติคนที่เจรจาด้วย และปฏิเสธที่จะชี้แจงว่ามีการประสานหรือพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ โดยขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่เชื่อว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช.ได้
นายธนาธร กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึง กกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นของตนทั้งหมด 13 บริษัทว่า ไม่รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด เพราะได้ทำตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งได้ดำเนินการขายหุ้นต่าง ๆ ไปตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.62 แล้ว และมีหลักฐานที่สามารถชี้แจ้งได้ทั้งหมด
ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยอมรับว่า มีการติดต่อทาบทาม ส.ส.ของพรรคตามที่เป็นข่าวจริง และได้รับแจ้งจากส.ส.หลายคน ซึ่งหากยังมีความพยายามที่จะใช้วิธีดึงส.ส.จากพรรคอื่น พรรคอาจจะนำหลักฐานมาเปิดเผยให้ดู แต่ยืนยันว่าส.ส.ที่ถูกทาบทามทุกคนจะยังอยู่กับพรรคอนาคตใหม่แน่นอน
นายปิยบุตร ยังกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเรื่องการถือหุ้นของนายธนาธรว่า นักการเมืองถือเป็นบุคคลสาธารณะ เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบความผิด ก็อยากให้แสดงความรับผิดชอบด้วย รวมไปถึงสำนักข่าวที่ตรวจสอบเรื่องนี้ อย่าเสียเวลาไปทำข่าวเจาะ เพราะพรรคพร้อมเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ อยู่แล้ว และควรไปตรวจสอบเรื่องที่สำคัญกว่า เช่น ตรวจสอบที่มา ส.ว. 250 คนว่าเป็นใครมาจากไหนบ้าง
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวด้วยว่า การเดินทางมารับใบรับรองการเป็นส.ส.ในวันนี้ เป็นเพียงกระบวนการวิธีการทางกฎหมายตามกระบวนการของการเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ใช่เป็นพิธีการที่ยอมรับว่า กกต.ทำถูกต้องหรือรับรอง กกต. แต่ความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นคือ การที่ประชาชนเป็นผู้เลือก ส.ส.เข้ามา