นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงว่า 11 พรรคการเมืองขนาดเล็ก ได้เห็นชอบร่วมกันที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยจะสนับสนุนให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
"เราจะเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ และสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ รอบที่ 2" นายมงคลกิตติ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ไม่เคยลืมนโยบายหาเสียงที่รับปากกับประชาชนไว้ แต่เป็นความจำเป็นให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ไม่อยากให้เกิดการต่อรองกันนานๆ เพราะจะส่งผลให้ประเทศชาติเสียโอกาส แต่อยากมาช่วยกันเปิดสวิทช์ให้ประเทศเดินหน้าต่อไป ทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ ช่วยให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย
ดังนั้น ขอเรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์อย่ามัวแต่ต่อรอง ขอร้องให้มาร่วมกันทำงาน หนักนิดเบาหน่อยให้อภัยกัน แต่ฝ่ายค้านทุกพรรคไม่ต้องเสียใจว่าจะทำงานให้เต็มที่ เพราะตนเองจะเป็นอีกหนึ่งคนที่มาช่วยตรวจสอบถ่วงดุลพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่ว่าสนับสนุนให้ตั้งรัฐบาลแล้วจะปล่อยให้ทำตามใจชอบ แต่เรื่องที่ไม่ดีก็ต้องคัดค้าน ถ้าทำผิดก็ต้องดำเนินคดี เพราะนโยบายของเราคือการปราบโกง และการปกป้องคนจน
"ถึงผมจะยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็ไม่ใช่ใจทั้งหมดจะยกให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุลในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ปล่อยให้สร้างภาระหนี้ให้กับประเทศ" นายมงคลกิตติ์ ระบุ
ด้านนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย พร้อมด้วยหัวหน้าพรรคการเมืองอีก 10 พรรค ย้ำว่า ที่ประชุม 11 พรรคการเมืองมีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในสองประเด็นคือ 1.สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 2.ยืนยันการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยมีความเชื่อมั่นในการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ และไม่มีเงื่อนไขต่อรองเรื่องตำแหน่งตามที่มีข่าว
"เราต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป หากรัฐบาลทำดี ก็พร้อมสนับสนุน หากมีปัญหาทุจริตคอรัปชั่นก็จะคัดค้าน" นายสัมพันธ์ กล่าว
ขณะที่นายระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า หลังรับฟังเสียงสมาชิกแล้ว สมาชิกส่วนใหญ่ 90% หนุนรัฐบาลพลังประชารัฐ เพื่อให้การเมืองเกิดเสถียรภาพสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ แต่ขอสงวนสิทธิ์เรื่องความอิสระในการเสนอญัตติและการตรวจสอบทุจริต ซึ่งหากเกิดขึ้นก็จะถอนตัวจากรัฐบาลทันที
ส่วนนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ หัวหน้าพรรคประชาภิวัฒน์ กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นว่าการทำงานที่ผ่านมามีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมารับหนังสือจาก 11 พรรคการเมือง เพื่อเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐด้วย โดยนายอุตตม กล่าวว่า ขอขอบคุณทั้ง 11 พรรคการเมืองจากใจจริงที่ตกลงใจมาทำงานร่วมกัน เพราะรู้ดีว่าประชาชนต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันถึงการนำนโยบายของแต่ละพรรคมาปฏิบัติ
สำหรับความคืบหน้าในการจัดตุ้งรัฐบาลนั้น ยังมีเวลาที่จะหารือกัน ซึ่งคงต้องให้เกียรติกัน รอให้พูดคุยกันเรียบร้อยก่อน และยังคงเดินหน้าต่อไปตามกรอบกติกา
ส่วนกรณีมีรายงานข่าวว่ามีการจัดสรรตำแหน่งให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และนายอนุพงษ์ เผ่าจินดา แล้วนั้น ยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกว่าใครจะเป็นอะไร
"เสถียรภาพรัฐบาล ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและให้เกียรติกัน ไม่ว่ารัฐบาลจะมีกี่พรรคก็ตาม" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุ
สำหรับ 11 พรรคการเมือง ประกอบด้วย
1. พรรคพลังชาติไทย โดย พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรค
2. พรรคประชาภิวัฒน์ โดยนายสมเกียรติ สรลัมพ์ หัวหน้าพรรค
3. พรรคไทยศรีวิไลย์ โดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรค
4. พรรคพลังไทยรักไทย โดยนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรค
5. พรรคครูไทยเพื่อประชาชน โดยนายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรค
6. พรรคประชานิยม โดย พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ หัวหน้าพรรค
7. พรรคประชาธรรมไทย โดยนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรค
8. พรรคพลเมืองไทย โดยนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรค
9. พรรคปรระชาธิปไตยใหม่ โดยนายสรุทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรค 10. พรรคพลังธรรมใหม่ โดยนายระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรค 11. พรรคไทรักธรรม โดยนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรค