นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ส.ว.ส่วนใหญ่มาจากการแต่งตั้งและเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้กันระหว่างฝ่ายที่มาจากการเลือกตั้งและฝ่ายที่มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งรัฐธรรมนูญล่าสุดกำหนดให้ ส.ว.มาจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ส.ว.ชุดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสืบทอดอำนาจของ คสช.
"ผมขอเรียกกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.กลุ่มนี้ว่าเป็นกระบวนการ "ผลัดกันเกาหลัง" ดังจะเห็นได้ว่า ส.ว.มีที่มาจากสามทาง เสียเงินไป 1,300 ล้านบาทเพื่อการแต่งหน้าทาปาก สรรหาให้ดูเหมือนว่ามาจากประชาชน แต่ประชาชนกลับไม่เคยได้เห็นชื่อเลย ได้ยินแต่ข่าวแว่วๆ ว่าจะมีใครบ้าง โดยกรรมการสรรหาก็คือ คสช. แล้วคนกลุ่มนี้ก็มีอำนาจที่จะกลับมายกมือเลือก คสช.ได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง" นายปิยบุตร กล่าว
เลขาธิการพรรค อนค. กล่าวว่า หากตามรอยย้อนไปเมื่อครั้งมีการร่างรัฐธรรมนูญจะเห็นได้ว่ากระบวนการเกิดขึ้นของ ส.ว.เต็มไปด้วยความวกวน มีการสอดแทรกคำถามพ่วงเข้ามาในช่วงไม่กี่เดือนก่อนการลงประชามติ จนเมื่อรัฐธรรมนูญผ่านการลงประชามติ กระบวนการคัดเลือก ส.ว.ก็เป็นไปอย่างมีลับลมคมใน
โดย ส.ว.กลุ่มนี้ทั้ง 250 คน มีนายทหาร 93 คน ตำรวจ 14 คน พรรคพวกเก่า 39 คน และอื่นๆ อีก 104 คน โดยบางส่วนของคนที่ได้เป็น ส.ว.ในรอบนี้เป็นสมาชิก สนช.มาตั้งแต่ปี 2549 และยังได้กลับมาเป็น ส.ว.ตามรัฐธรรมนูญ 2550 ได้เป็นสมาชิก สนช.ต่อหลังปี 2557 และยังได้มาเป็น ส.ว.อีกในรอบนี้
เลขาธิการพรรค อนค. กล่าวว่า ประชาชน 51 ล้านคนได้เลือก ส.ส.จำนวน 500 คน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียวเลือก ส.ว.ได้ถึง 250 คน คิดเป็นน้ำหนักคะแนนเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียวเท่ากับประชาชน 17,763,500 เสียง ดังนั้นที่ระบุในรัฐธรรมนูญไว้ว่า ส.ว.ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยกลายเป็นผู้แทนของ คสช.เพราะคัดมากับมือ
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าในเมื่อ ส.ว.มาจากการเลือกของ คสช. และสุดท้ายมีการใช้อำนาจเพื่อยกมือโหวตให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็อาจจะเข้าข่ายเป็นการอยู่ภายใต้อาณัติหรือความครอบงำของบุคคลอื่น หรือเป็นการขัดกันของผลประโยชน์ ตามลักษณะทางจริยธรรมของ ส.ส.และ ส.ว.ตามมาตรา 114 ของรัฐธรรมนูญได้
ดังนั้นแม้ว่า ส.ว.จะมาจากการแต่งตั้งของ คสช. แต่ ส.ว.ก็สามารถเลือกได้ว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองได้รับมานี้อย่างไร เพื่อพิสูจน์ตนเองให้ประชาชนเห็นว่าพวกตนเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง ไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติของใครและไม่มีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ แม้ว่ารายชื่อที่ออกมาจะไม่ผิดความคาดหมายและเป็นที่รู้กันว่า ส.ว.ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจะเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจของ คสช. แต่ตนเองยังอยากมองในอีกมุมหนึ่งว่า ส.ว.เองก็สามารถเลือกที่จะพิสูจน์ตนเองได้ เพื่อทำให้ทุกคนเห็นว่าพวกตนไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนปรามาศไว้
"ผมขอเรียกร้องไปยัง ส.ว.ทั้ง 250 คนว่าควรต้องมีความอายกันบ้าง เคารพประชาชนบ้าง วันนี้คุณได้เป็น ส.ว.แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถกดดันคุณได้อีกแล้ว วันนี้ทุกคนปรามาศคุณเต็มไปหมด ว่าคุณคือคนของ คสช. ผมขอเรียกร้องให้พวกคุณพิสูจน์ให้สาธารณชนเห็นว่าคุณไม่ใช่เครื่องมือในการสืบทอดอำนาจ พิสูจน์ความเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย พิสูจน์ว่าคุณไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติของ คสช.และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับ คสช." นายปิยบุตร กล่าว