นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงการพิจาณาสำนวนยุบพรรคชาติไทย(ชท.)และพรรคมัชฌิมาธิปไตย(มฌ.)ว่า คณะอนุกรรมการฯ ชุดที่มีนายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธานจะใช้สำนวนเดิมที่ กกต.เคยให้ใบแดงกรรมการบริหารพรรคที่กระทผกฎหมายเลือกตั้งไว้มาพิจารณาร่วมกันว่าต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ และอาจต้องเชิญหัวหน้าพรรคทั้ง 2 พรรคมาชี้แจงข้อกล่าวหาด้วย
กกต.ได้กำชับให้คณะอนุกรรมการฯ สืบสวนสอบสวนโดยเร็วที่สุด เพราะหากมีการยุบพรรคจริงตามข้อกฎหมายแล้ว ผู้ที่เป็นสมาชิกพรรคจะต้องไปสังกัดพรรคใหม่ภายใน 60 วัน แต่หากเป็นกรณีของกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองด้วยก็จะพ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.และพ้นจากการเป็นรัฐมนตรีด้วย
ด้านนางสดศรี สัตยธรรม กกต.คาดว่า ประมาณต้นเดือน มี.ค.คณะอนุกรรมการสอบสวนฯ จะสามารถสรุปผลได้และกระบวนการสอบสวนคงไม่ยุ่งยาก เนื่องจากมีสำนวนเดิมจากที่ทั้ง 2 พรรคเคยได้รับใบแดงไปแล้ว และกระบวนการสอบสวนหาข้อเท็จจริงจะดูว่าผู้สมัครของทั้ง 2 พรรค ได้กระทำการอันขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.หรือไม่
ทั้งนี้ เชื่อว่าการพิจารณาเรื่องนี้ไม่น่าจะยาก เพราะคณะกรรมการพรรคการเมืองและประชามติได้ลงมติไปแล้วว่า การกระทำของกรรมการบริหารพรรคทั้ง 2 พรรคเป็นสาเหตุของการยุบพรรคและสมควรส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่อย่างไรก็ดี คงต้องมาดูอีกทีว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นพ้องกับ กกต.จนถึงขั้นวินิจฉัยให้ยุบพรรคหรือไม่ เพราะปกติแล้วการกระทำของกรรมการบริหารพรรค มักจะทำเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพรรคการเมือง ดังนั้น การกระทำความผิดของกรรมการบริหารพรรคย่อมจะส่งผลถึงพรรคการเมืองด้วย
ส่วนกรณีวีซีดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนสำนวนของนายยงยุทธจะดำเนินการได้แล้วเสร็จในช่วงกลางเดือน ก.พ.นี้ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ กกต.ต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังเหลือเพียงพยานของนายยงยุทธอีก 10 ปาก แต่หากยังยื้อเวลาไม่มาชี้แจง กกต.สามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาเรื่องดังกล่าวเองได้
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--