นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) และนายสันธนะ ประยูรรัตน์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทวงถามความคืบหน้ากรณีนายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เคยยื่นเรื่องขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 29 มี.ค.62 กรณีพรรคพลังประชารัฐปล่อยให้นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ซึ่งมีคุณสมบัติต้องห้ามจากการต้องโทษจำคุกในคดีทุจริตต่อหน้าที่ และพ้นโทษยังไม่ถึง 10 ปี จึงไม่สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้ แต่พปชร.กลับยินยอมให้นายชนม์สวัสดิ์ สวมเสื้อที่มีโลโก้พรรค พปชร. ขึ้นเวทีปราศรัยต่อหน้านายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค
โดยเนื้อหาการปราศรัยเพื่อช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครของ พปชร.ทั้ง 7 เขตในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.62 และยังนำภาพของนายชนม์สวัสดิ์ ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลภายนอกมาขึ้นป้ายหาเสียง กรณีของนายชนม์สวัสดิ์ จึงเข้าข่ายปล่อยให้บุคคลภายนอกชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกพรรคขาดอิสระ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28
นอกจากนี้ ยังปรากฏหลักฐานในการเปิดสำนักงานที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ นายชนม์สวัสดิ์ ในฐานะประธานหอการค้าสมุทรปราการ เข้าร่วมเปิดที่ทำการและเบิกเนตรเทพเจ้าเห้งเจีย และยังระบุว่านายชนม์สวัสดิ์ มีตำแหน่งเป็นประธานสาขาของพรรค ซึ่งเป็นการจูงใจให้เข้าใจผิดในความนิยมของตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพราะไม่ใช่การเลือกตั้งท้องถิ่น โดยนายชนม์สวัสดิ์ ขาดคุณสมบัติ เป็นสมาชิกพรรคยังไม่ได้ แล้วจะเป็นประธานสาขาได้อย่างไร กกต.จึงต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชารัฐ
ด้านนายสันธนะ กล่าวว่า ได้รวบรวมหลักฐานกรณีนายชนม์สวัสดิ์ไว้แล้ว แต่ต้องขอใช้บริการนายเรืองไกร เนื่องจากเป็นมืออาชีพ โดยตนขอเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ
"หากสามารถยุบพรรคพลังประชารัฐได้ ก็ต้องกราบลา 3 ป. ถือว่าสามารถเข้ามาถอดสายพานรถถังได้" นายสันธนะระบุ