นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า มีข่าวว่าวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติเกี่ยวกับการรับคำร้อง/ไม่รับ คำร้องที่ยังไม่เสร็จของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในคดีการถือครองหุ้นวี-ลัค มีเดีย แต่ทางคณะกรรมการสืบสวนฯ ยังเรียกสอบพยานอยู่ ขณะที่ กกต.ชุดใหญ่ ลงมติและยื่นคำร้องต่อศาลไปก่อน
พร้อมกันนี้ นายธนาธรได้แสดงหลักฐานเอกสารเชิญ 2 พยาน การโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย เมื่อวันที่ 8 มกราคม กรณีการเข้าให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนของ กกต. โดยในเอกสารลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 แต่ส่งจริงเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม และถึงมือพยานทั้งสองในวันที่ 22 พฤษภาคม หากแต่ก่อนหน้านั้น เมื่อ 16 พฤษภาคม กกต.ได้มีมติและส่งคำร้องกรณีหุ้นวีลัคไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว เท่ากับว่า กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญทั้งที่กระบวนการสืบสวนไต่สวนยังไม่เสร็จสิ้น ถือเป็นการเร่งรัดขั้นตอนกระบวนการ ทำให้ กกต.มีความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 69 ฐานใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ
นายธนาธร ระบุตอนหนึ่งว่า เมื่อวานนี้ (22 พฤษภาคม 2562) พยานของผม 2 คนในการโอนหุ้นวี-ลัค ได้รับจดหมายหนังสือเชิญไปให้ถ้อยคำ ฉบับลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 จากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. (ชุดเดียวกับที่ผมได้ไปให้ถ้อยคำกับ อ.ปิยบุตร เมื่อวันที่ 30 เมษายน) และจดหมายเพิ่งถูกจัดส่งเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562
ทุกท่านครับ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ชุดนี้ เป็นคณะกรรมการที่ทำหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงหลังแจ้งข้อกล่าวหาให้ยุติ จึงจะเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับคำร้อง เมื่อคณะอนุกรรมการฯ ลงมติให้ความเห็นเกี่ยวกับคำร้องแล้ว กระบวนการสุดท้าย สำนวนคำร้องจึงจะไปอยู่ในชั้นพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่า จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ต่อไป
"ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา กกต. ได้ยื่นคำร้องคดีนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่การสืบสวนไต่สวนข้อเท็จจริงตามสำนวนคำร้องนี้ ยังไม่เสร็จสิ้น หลังจาก กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เพิ่งจะเรียกพยานของผมไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสืบสวนฯ ทั้ง ๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการพิจารณาความสมบูรณ์ของการโอนหุ้น คำร้องที่ กกต. ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ยังไม่ยุติในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ คณะกรรมการสืบสวนฯ ยังเรียกสอบพยานอยู่ แต่ กกต.ชุดใหญ่ ท่านลงมติและยื่นคำร้องต่อศาลไปก่อน มีข่าวว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติเกี่ยวกับการรับคำร้อง/ไม่รับ คำร้องที่ยังไม่เสร็จของ กกต.คดีนี้" นายธนาธร ระบุ
"8 มกราคม ผมกลับจากบุรีรัมย์ มา กทม. โดนใบสั่งอยู่หลายใบ หลายท่านแซวกันว่าคนขับรถของผมเร่งรีบซิ่งเหยียบมิดรีบกลับ กทม. จนเกินไปแล้ว แต่เมื่อเจอกรณีนี้ของ กกต.แล้ว การเหยียบซิ่งของคนขับรถผม กลายเป็นเต่าคลานไปเลย - กกต. ท่านไวกว่า กกต. ท่านยิงไนตรัสด้วย จะรีบไปไหน งานนี้ กกต.ท่านไม่โดน "ใบสั่ง" (ค่าปรับ พ.ร.บ.จราจร) ก็จริงครับ พฤติการณ์ของท่านอาจไม่ขัด พ.ร.บ.จราจร แต่อาจขัดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.ป.กกต. มาตรา 69 ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่" นายธนาธร ระบุ