นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี รับปากที่จะสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย แต่จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่โดยไม่เข้าไปก้าวก่าย
"ผมไม่กล้าไปวุ่นวาย ผมไม่อวดศักดาว่าจะเข้าไปแก้ปัญหา แต่คราวนี้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ต้องคุยกับเขา ซึ่งคุณอนุพงษ์(พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก)เองขณะนี้ก็ทำให้ดีขึ้น แต่เราคงจะไม่เข้าไปคลุกคลี" นายสมัคร กล่าวต่อคณะกรรมการกลางอิสลามฯ ที่เดินทางเข้าพบในวันนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับข้อเสนอของคณะกรรมการกลางอิสลามฯ ไปดำเนินการ โดยจะนำไปปรึกษาหารือกับฝ่ายทหาร เพราะแนวทางการแก้ปัญหาที่ผู้บัญชาการทหารบกทำอยู่ก็เป็นไปด้วยดี หลังจากนั้นจะเสนอความเห็นต่อสาธารณชน ซึ่งส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับแนวทางการปลดอาวุธ ถ้าทำสำเร็จความสงบจะกลับคืนสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน และต้องการเห็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับคืนสู่ความสงบเหมือนเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาอีกครั้ง
"สมัยนั้นผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คนไทยพุทธและไทยมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ส่วนข้อเสนอที่ให้ประหารชีวิต ผมเห็นว่าแรงเกินไป ให้จำคุกตลอดชีวิตก็พอแล้ว" นายสมัคร กล่าว
นายบรรจง โซ๊ะมณี รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามฯ ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ต้องทำให้พื้นที่ดังกล่าวปลอดอบายมุขและปลอดอาวุธภายในเวลา 3 เดือน โดยคนที่ครอบครองอาวุธอยู่ต้องให้เวลานำมาคืนแก่เจ้าหน้าที่ เมื่อครบกำหนดแล้วหากตรวจค้นพบว่าบ้านใดยังมีอาวุธอยู่ หัวหน้าครอบครัวต้องถูกประหารชีวิต
"ให้เวลา 3 เดือน เพื่อให้ผู้ที่มีอาวุธนำมาคืนให้กับรัฐ สำหรับอาวุธที่มีทะเบียนก็ให้ตีสภาพและคืนเงินให้ หลังจากนั้นให้ผู้แทนชุมชนหรืออิหม่ามเข้าไปตรวจ ซึ่งหากพบเจอหัวหน้าครอบครัวต้องถูกประหารชีวิตหรือยิงทิ้ง" นายบรรจง กล่าว
หลังจากเริ่มดำเนินการครบ 6 เดือนแล้วให้ทหารกลับเข้าประจำกรมกองเดิม ตำรวจต้องไม่พกอาวุธให้พกกระบองแทน ยกเว้นนายตำรวจยศตั้งแต่ร้อยตำรวจเอกขึ้นไปจึงให้พกอาวุธได้ และรัฐบาลจะต้องมีนโยบายเรื่องศาสนาและอาชีพ โดยการนำเศรษฐกิจพอเพียงเข้าสู่ชุมชน
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--