นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แสดงความยินดีกับรัฐบาลกรณีอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศของไทย ซึ่งจัดทำโดย World Competitiveness Center ของ IMD ปรับขึ้นถึง 5 อันดับ จากที่ 30 ในปีก่อนมาอยู่ที่อันดับที่ 25 ในปีนี้
"เป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง พิสูจน์ว่าประเทศไทยเดินมาถูกทางแล้วที่รัฐบาลเน้นเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมขนส่ง วิทยาศาสตร์ 4.0 อุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมแห่งอนาคต การเร่งรัดเรื่อง EEC ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจของประเทศในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และที่สำคัญอีกด้าน คือ การปลดล็อกกฏหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ" นายกอบศักดิ์ กล่าว
โฆษกพรรค พปชร. กล่าวว่า ยินดีกับรัฐบาลที่ได้เร่งรัดยกระดับประเทศมาถึงจุดนี้ และผู้บริหารระดับสูงของพรรคที่ได้ทำงานร่วมในอดีตมาด้วยกันกับรัฐบาลในเรื่องนี้ พร้อมที่จะสานต่อให้เกิดความยั่งยืน
ทั้งนี้ การที่อันดับการแข่งขันของประเทศไทยปรับดีขึ้นนั้นเป็นผลจากดัชนีย่อยใน 3 ด้าน คือ ด้านสภาวะเศรษฐกิจ ด้านประสิทธิภาพของภาครัฐ และด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับตัวดีขึ้น 2-3 อันดับในแต่ละด้าน โดยเป็นผลจากการลงทุนระหว่างประเทศที่ดีขึ้นมาก ตลอดจนกฏหมายด้านธุรกิจที่เอื้อต่อการทำธุรกิจมากขึ้น ตลอดจนพัฒนาการที่ดีขึ้นด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานและโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ การวิจัย การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตไร้สาย การส่งออกสินค้าไฮเทค เป็นต้น
สำหรับประเด็นที่รัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศต้องสนใจและสนับสนุนเป็นพิเศษ คือ ด้านประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ ที่อันดับของเราปรับลดลง 2 อันดับในด้านนี้ โดยจะต้องให้ความสำคัญกับการก้าวสู่อนาคต การใช้ Big data การดึงดูดและพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และการพัฒนาความคล่องในการปรับตัวของภาคธุรกิจกับ Disruptive technology
โฆษกพรรค พปชร. กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐพร้อมร่วมงานกับทุกฝ่ายเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจสู่อนาคต สู่ยุค 4.0 ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำของเอเชียและภูมิภาคในเรื่องขีดความสามารถในการแข่งขันที่จะช่วยยกระดับรายได้ของประเทศและประชาชน ซึ่งขณะนี้ทีมยุทธศาสตร์พรรคกำลังเตรียมรายละเอียดของนโยบายที่จะขับเคลื่อนต่อไปในด้านต่างๆ เพื่อประชาชนคนไทยทุกคน