ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดในคดีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นฟ้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้มีคำสั่งเพิกถอนมติของ กกต.ที่วินิจฉัยข้อร้องเรียนของตนเองในกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดช่องทางสื่อสารกับสาธารณชนในรูปแบบเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ รวมถึงเว็บไซต์ส่วนตัว ไม่อาจถือว่าเข้าข่ายการเป็นเจ้าของกิจการสื่อมวลชนใด ๆ อันจะมีผลเป็นการเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ผู้ฟ้องคดีจึงยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
โดยศาลปกครองสูงสุด วินิจฉัยว่า ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ในการวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวด้วยเหตุขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 และมาตรา 210 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ผู้ถูกฟ้องคดีจึงมีอำนาจที่จะพิจารณาวินิจฉัยว่ากรณีใดที่จะต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีมติไม่รับกรณีตามหนังสือของผู้ฟ้องคดีจึงเป็นการใช้อำนาจของผู้ถูกฟ้องคดีอันเป็นกระบวนการและขั้นตอนที่บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะในรัฐธรรมนูญ ข้อพิพาทนี้จึงไม่ใช่คดีปกครองที่อยู่ในอำนาจพิพากษาของศาลปกครอง ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา