นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะนำความไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เรียกโฆษกพรรคอนาคตใหม่และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่มาให้ข้อเท็จจริงกรณีที่แถลงข่าวเปิดโปงว่าถูกติอต่อขอซื้อตัวสูงถึง 120 ล้านบาท เพื่อเอาผิดบุคลหรือพรรคการเมืองที่กระทำการดังกล่าว และหากสอบแล้วไม่มีมูลความจริง จะต้องเอาผิดผู้ที่ไขข่าวดังกล่าวตามกฎหมายต่อไปด้วย
เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไม่อาจปล่อยผ่านให้เป็นเหมือนคลื่นกระทบฝั่งไปได้ เนื่องจากหากเป็นความจริง จะถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างรุนแรงหลายฉบับหลายมาตรา ทั้งกฎหมายอาญา มาตรา149 และกฎหมายพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 44 มาตรา 46 มาตรา 88 วรรคสอง และถือได้ว่าเป็นกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ บุคคลของพรรคการเมืองใดกระทำเช่นนั้นจะเป็นมูลเหตุสำคัญที่นำไปสู่การยุบพรรคการเมืองโดยศาลรัฐธรรมนูญได้
"เมื่อกรรมการบริหารและ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ได้ออกมาแถลงข่าวเปิดโปงขบวนการซื้องูเห่าว่ามีจริง จะต้องดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อผู้ที่มาติดต่อขอซื้อตัวโดยเร็ว ว่าเป็นใคร มาจากพรรคการเมืองใด เพื่อลบข้อครหาว่าเป็นแกะ หรือแสร้งแถลงข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาเท่านั้น เพราะหากพรรคอนาคตใหม่ไม่ดำเนินการใด ๆ ทางกฎหมายและไม่แจ้ง กกต. ให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน ตามอำนาจหน้าที่ต่อไปก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายพรรคการเมืองและอาจมีโทษถึงขั้นที่นายทะเบียนพรรคการเมืองอาจเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ กกต.เพื่อพิจารณามีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 5 ปีด้วย"นายศรีสุวรรณ กล่าว