นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตอบข้อซักถามถึงกระแสข่าวล้มการเจรจาที่ได้ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยเชื่อว่าข้อตกลงการร่วมรัฐบาลเป็นข้อตกลงที่มีหลักสาระสำคัญ คือ จะต้องเข้าไปเพื่อนำนโยบายของพรรคฯ ไปทำประโยชน์เพื่อประชาชน เพราะนั่นคือพันธสัญญาที่ทุกฝ่ายจะต้องยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
ซึ่งในการประสานงานในรายละเอียดกับพรรคแกนนำนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้ยืนยันต่อที่ประชุมร่วมกัน ระหว่างกรรมการบริหาร (กก.บห.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อครั้งก่อนว่าเสร็จสิ้นและทุกอย่างเป็นข้อยุติแล้ว
โดยนโยบายต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่อง "แก้จน สร้างคน สร้างชาติ" โดยเฉพาะนโยบาย "ประกันรายได้เกษตรกร" ก็รับตรงกันว่าจะมีการกำหนดไว้เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพรรคฯ ต้องการนำนโยบายไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงแล้ว ก็ย่อมมีความจำเป็นที่พรรคฯ จะต้องเป็นผู้ขับเคลื่อนเพื่อให้สำเร็จตามแนวนโยบายดังกล่าว
"หลักการพูดคุย คือการยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ที่จะได้นำนโยบายไปปฏิบัติให้เกิดผลกับประชาชนมากที่สุด ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น คือสาระสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีจุดยืนในเรื่องนี้ชัดเจนที่สุด" นายราเมศ กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่ามีบุคคลภายนอกแทรกแซง ก้าวก่าย ครอบงำพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายราเมศ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ควรมาก้าวก่ายการดำเนินกิจการของพรรคประชาธิปัตย์ การใส่ร้ายพรรคการเมืองอื่นนั้นให้พึงระวัง พรรคประชาธิปัตย์มีกฎเกณฑ์กติกาการทำงานชัดเจน มติที่ประชุมพรรคได้มอบให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ ไปประสานกับพรรคแกนนำ มีอำนาจในการดำเนินการ ดังนั้นจึงไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เมื่อผลออกมาเป็นอย่างไรนั้น ก็จะต้องนำผลดังกล่าวมารายงานพรรคฯ เพื่อเข้าสู่กระบวนการขั้นตอนของที่ประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหาร (กก.บห.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)