นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยืนยันว่าการจัดสรรโควต้าพรรคร่วมรัฐบาลในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำได้ข้อสรุปในระดับกระทรวงไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งพรรค ภท.ได้ขอดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
"การเขียนอะไร อธิบายมากมายในเฟซบุ๊กทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันเพราะจริงๆ พูดกันง่าย ระหว่างผู้บริหารพรรคคุยกันหมดแล้ว...เป็นการพูดคุยตกลงในหลักการเรียบร้อยแล้ว ฝรั่งบอก happen for the reason มีท่านประธานชวน หลีกภัยมาเป็นประธานสภา มีกระบวนการ พอรู้แล้วว่าอันไหนขั้วรัฐบาล อันไหนขั้วฝ่ายค้าน"นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์เช้านี้หลังจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่าการเจรจายังไม่ได้ข้อสรุป ขณะที่มีกระแสข่าวเจรจาแลกคืนกระทรวงหลัก คือ คมนาคม และ พาณิชย์
นายอนุทิน กล่าวว่า เห็นด้วยกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่ระบุว่าเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว ต้องช่วยกันเดินหน้าประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพที่สุด พร้อมยืนยันว่าตนเองพูดคำไหนก็คำนั้นและจบ แต่ด้วยความที่นายอุตตมมาจากพื้นเพของนักวิชาการอาจจะต้องการอะไรที่ต้องการหนักแน่น
ส่วนที่ต้องใช้เวลานานในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ยังเป็นไปตามเงื่อนเวลาตามโรดแมพของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และกฎหมายลูก ซึ่งประชาชนรับทราบเรื่องเงื่อนเวลาไปแล้ว เพราะมีหลายเหตุการณ์ อาทิ งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่รัฐบาลที่จะจัดงานนี้ต้องมีความต่อเนื่อง ทำให้มีความหมายที่สุด ทรงคุณค่าที่สุด แต่ก็จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน เพราะหากยังไม่แถลงนโยบายก็จะทำงานไม่ได้
"ระดับพรรคการเมืองด้วยกันจบไปแล้ว ทุกคนทราบอยู่แล้วว่าจะต้องไปรับผิดชอบดูแลกระทรวงอะไร อันนี้เป็นอำนาจของท่านนายกรัฐมนตรีแล้ว รอการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมา ยังอยู่ในเงื่อนเวลาทุกอย่าง รอท่านนายกฯพิจารณา สุดท้ายคือท่านนายกนั่นแหละ"นายอนุทิน กล่าว
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การเจรจาร่วมรัฐบาลมีข้อยุติตั้งแต่การที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และต่อมามีการเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นลง ทุกอย่างเดินไปตามขั้นตอนของการจัดตั้งรัฐบาล และแกนนำ ปชป.ก็ไม่เคยได้รับการประสานให้กลับไปเจรจาแต่อย่างใด
นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า ปชป.จะได้ดูแลกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยจะเป็นโควต้ารองนายกรัฐมนตรีควบกระทรวงหลัก และรัฐมนตรีว่าการอีก 2 กระทรวง
ส่วนการที่นายอุตตมระบุว่าการเจรจายังไม่จบนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าการเจรจาที่ไม่จบคือการเจรจาระหว่างพรรค หรือการเจรจาภายในพรรค ซึ่งเรื่องนี้ต้องแยกประเด็น เพราะหากเป็นเรื่องภายในพรรคไม่จบก็เป็นกระบวนการที่แต่ละพรรคต้องไปดำเนินการว่าจะได้มาซึ่งรัฐมนตรีและฝ่ายบริหารเป็นอย่างไร ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากพรรคร่วมรัฐบาล