นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่ายังไม่ถือเป็นครั้งสุดท้าย เพราะจะมีการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ในวันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงที่เป็นเสาหลักยังมีเรื่องที่ต้องไปเจรจา และต้องนำเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้เมื่อใด
"จนกว่า ครม.ชุดใหม่จะมีพิธีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ รัฐบาลชุดนี้จึงจะหมดอายุลง แต่หากพอรู้ว่าจะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณวันไหน แม้จะยังไม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ ครม.ชุดนี้ก็คงจะหยุดการประชุมแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่รู้ เนื่องจากรัฐมนตรียังไม่โผล่มาสักคนเลย ยังทำพิธีกรรมไม่เสร็จ ฉะนั้นครม.ชุดนี้ จะต้องดำเนินการในส่วนที่เป็นปัญหาของประเทศที่คั่งค้างกันอยู่" นายวิษณุ กล่าว
พร้อมระบุว่า ในการประชุมสุดยอดอาเซียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีเก่า หรือนายกรัฐมนตรีใหม่ก็ไม่ได้แตกต่างอะไร แต่นายกรัฐมนตรีใหม่ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มีการถวายสัตย์ปฏิญาณ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงยังทำหน้าที่ไม่ได้
และแม้จะถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ก็จะไปทำอะไรที่เป็นการบริหารราชการแผ่นดินไม่ได้ ซึ่งการเข้าร่วมประชุมระหว่างประเทศนั้น อาจจะมีส่วนที่เป็นการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งอาจจะผูกมัดประเทศไทย อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีคนเดิมสามารถทำหน้าที่ จนถึงวันที่ครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีจะรับพระบรมราชโองการภายในทำเนียบรัฐบาล หากไม่นับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้เข้ามาในสถานการณ์ปกติ เนื่องด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องหลังจากที่เป็นมาแล้ว จึงได้ใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่รับพระบรมราชโองการได้ ต่างจากอดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ต้องรับพระบรมราชโองการนอกทำเนียบรัฐบาล เช่น พล.อ.สุจินดา คราประยูร ซึ่งรับพระบรมราชโองการที่บ้านพัก ส่วนการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมในพิธีด้วยนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ