นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า คาดว่าเดือนก.ค. จะได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐได้ส่งรายชื่อถึงมือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ทยอยส่งรายชื่อให้กับนายกรัฐมนตรีพิจารณาในขั้นสุดท้าย โดยระหว่างนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็กำลังประชุมอยู่ และคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ยอมรับว่าบางตำแหน่งทางพรรคพลังประชารัฐได้ส่งรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณามากกว่า 1 รายชื่อ พร้อมข้อเสนอแนะ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นบุคคลใด โดยขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะพิจารณาเลือกบุคคลใด
เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสความขัดแย้งในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีภายในพรรคว่า ทุกพรรคมีปัญหาเกี่ยวกับความเห็นที่แตกต่างกัน พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคขนาดใหญ่ มี ส.ส.กว่า 100 คน จึงเป็นเรื่องปกติ ที่สำคัญพรรคเปิดโอกาสให้ทุกคน และเคารพความเห็นของทุกคน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีความเห็นต่าง แต่สุดท้ายก็ต้องจบด้วยการพูดคุยทำความเข้าใจกัน
ทั้งนี้ มองว่าการตั้ง ครม.มีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะคงไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้หมด ขอให้มองความสามารถของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า
นายสนธิรัตน์ ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าของการจัดทำนโยบายรัฐบาลว่า ขณะนี้กรอบนโยบายพรรคเสร็จสมบูรณ์แล้ว จากนั้นในสัปดาห์หน้าจะเช็คความพร้อมของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อนัดหารือร่วมกัน เพื่อนำนโยบายของแต่ละพรรคร่วมมาร้อยเรียงให้เป็นนโยบายรัฐบาล ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาและแถลงต่อรัฐสภา
ส่วนกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติความเป็น ส.ส.จากการถือครองหุ้นสื่อของ 27 ส.ส ในพรรคพลังประชารัฐว่า ขณะนี้พรรคมีคณะทำงานฯ ซึ่งมีนายทศพล เพ็งส้ม ดูแลข้อกฎหมายอยู่ ซึ่งยอมรับว่าเป็นประเด็นใหม่ทางการเมือง แต่ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล เนื่องจากสภาพการถือครองหุ้นมีความแตกต่างกัน ส่วนผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคใหม่ว่า เป็นเพียงกระแสข่าว ซึ่งไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่หากพล.อ.ประยุทธ์ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือเป็นผู้นำเข้มแข็ง ซึ่งจะทำให้พรรคเกิดความเข้มแข็งและเดินหน้าไปได้
ส่วนจะเป็นการตอกย้ำภาพการสืบทอดอำนาจให้ชัดเจนขึ้นหรือไม่นั้น นายสนธิรัตน์ เห็นว่าขณะนี้ยังเป็นเพียงกระแสข่าว ซึ่งยังไม่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะมาดำรงตำแหน่งจริงหรือไม่ และประเด็นนี้ทางพรรคยังไม่เคยมีการพูดคุยหรือวางตัวมาก่อน แต่หากพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นหัวหน้าพรรคจริง ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนตัวกรรมการบริหารพรรคใหม่หรือไม่ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งเลขาธิการพรรคด้วย
"ตอนนี้ พรรคยังไม่มีการเทียบเชิญพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นหัวหน้าพรรค และยังเร็วไปที่จะพูดเรื่องนี้ ต้องรอความชัดเจน และส่วนตัวเห็นว่าเป็นไปได้ที่พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อให้การทำงานของพรรคและของนายกรัฐมนตรี เป็นไปในทิศทางที่สอดรับกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องของอนาคต" นายสนธิรัตน์ กล่าว