นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สื่อสารมวลชนได้รายงานโผการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ส่งชื่อนายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ให้ดำรงตำแหน่ง "รมช.มหาดไทย" นั้น เมื่อตรวจสอบประวัติการทำหน้าที่นายก อบจ.สงขลาแล้ว พบว่า มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้อำนาจและการปฏิบัติหน้าที่ที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายเรื่องหลายโครงการมาก
หากนายนิพนธ์ ถูกแต่งตั้งให้เป็น รมช.มหาดไทย อาจมีผลต่อพยานหลักฐานในไต่สวน สอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ อาทิ
1) โครงการประมูลซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ ชนิด 10 ล้อ 2 คันวงเงิน 52 ล้านบาท แต่ไม่ยอมเบิกจ่ายเงินให้กับผู้ชนะการประมูลตามสัญญา จนเอกชนนำความไปฟ้องคดีต่อศาลปกครองสงขลา และศาลได้พิพากษาให้ อบจ.ต้องจ่ายเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยตามสัญญา ซึ่งเป็นเหตุให้ราชการเสียหายเพราะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่ม ซึ่งกรณีดังกล่าวได้มีการร้องเรียนต่อที่ ป.ป.ช.ด้วยแล้ว
2) โครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา โดยใช้เงินงบประมาณปี 2558-2559 ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณไม่ถูกต้องเกินกว่าอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงินการเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2547 ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปกว่า 34 ล้านบาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีมติให้เรียกเงินจำนวนดังกล่าวคืนทั้งหมด แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้คืนให้ อบจ.แต่อย่างใด ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็มีผู้นำไปร้องเรียนเอาผิดต่อ ป.ป.ช.แล้วเช่นกัน
3) โครงการจัดซื้อจัดจ้างรถอุบัติเหตุฉุกเฉิน ในราคาที่แพงเกินเหตุ โดยตั้งราคาไว้ที่ 5.7-6 ล้านบาท/คัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีผู้ร้องเรียนเอาผิดแล้วและอยู่ในการสอบสวนของ ป.ป.ช.อยู่
4) โครงการสร้างสวนสาธารณะเมืองสงขลาเพื่อการท่องเที่ยว โดยใช้งบกว่า 375 ล้านบาทโดยอ้างว่าเป็นโครงการที่สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ แต่กลับไม่ได้ขอพระราชทานอนุญาตจากกรมราชเลขานุการในพระองค์ ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายเสียก่อนแต่อย่างใด รวมทั้งโครงการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย ร.9 และราชินี ซึ่งมิได้ขออนุญาตจากกรมศิลปากรตามกฎหมายแต่อย่างใดด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีการนำไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองสงขลาแล้ว และได้มีการร้องเรียนอยู่ที่ ป.ป.ช.ด้วยเช่นกัน
5) การอนุมัติงบประมาณโครงการให้ 4 อำเภอในสงขลามากกว่าอำเภออื่นๆ ทำให้ขาดความเสมอภาคและบริษัทที่ได้งานรับเหมาก็เป็นบริษัทเดิมๆที่เคยทำงานให้ อบจ.ยุคที่นายนิพนธ์เป็นนายกฯ จึงเข้าข่ายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กัน ซึ่งเรื่องดังกล่าว ป.ป.ช.ได้รับเรื่องไว้สอบสวนแล้ว
"แม้คดีความยังไม่สิ้นสุด แต่คำพิพากษาของศาลชั้นต้นก็ดำเนินการตัดสินความผิดแล้ว และยังเห็นว่า ส.ส.ในฝั่งรัฐบาลยังมีอีกหลายคนที่มีความเหมาะสมทำหน้าที่รัฐมนตรีได้" นายศรีสุวรรณ กล่าว
เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาของการปฏิรูปนักการเมือง ดังนั้นการพิจารณาในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสสำคัญ ที่นายกรัฐมนตรีจะได้พิสูจน์ความจริงใจในการแก้ไขปัญหาการทุจริต และไม่นำพาผู้ที่มีประวัติไม่เหมาะสม ให้เข้ามาทำงานในฐานะรัฐมนตรี
"ถ้ายังเดินหน้าแต่งตั้ง การรณรงค์เรื่องการป้องกันการทุจริต จึงเป็นเพียงการแหกตาประชาชนเท่านั้นเอง" นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งพบว่ามีอย่างน้อย 3 คนที่มีประวัติเกี่ยวกับการใช้อำนาจโดยมิชอบ โดยเป็นรายชื่อของพรรคร่วมรัฐบาลแถวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยไม่มีในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งภายใน 1-2 วันนี้จะยื่นให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป