นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ชี้แจงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไปยื่นเรื่องคัดค้านการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของตนเองต่อนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่ามีกรณีทุจริตขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกองค์การบริการส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า การร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมบำรุงถนนจำนวนสองคันรวม 50 ล้านบาทนั้นไม่ใช่การร้องเรียนว่าตนเองทุจริต แต่เป็นกรณีที่ตนเองไม่จ่ายเงิน เนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวมีปัญหา และเป็นการดำเนินการก่อนที่ตนเองเข้ารับตำแหน่ง เมื่อเข้ารับตำแหน่งแล้วก็มีการร้องเรียนว่ามีปัญหาเรื่องการสมยอมราคา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกรณีรถเรือดับเพลิง กทม.ทำให้ตนเองไม่จ่ายเช็คออกไป แต่สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบก่อน ซึ่งมีหนังสือผู้ว่าราชการจังหวัดลงวันที่ 5 มิถุนายน 2557 ระบุให้จ่ายเงินแต่ให้ตรวจสอบกรณีที่มีการร้องเรียนด้วย หากใครทำผิดให้ดำเนินการทั้งคดีแพ่งและอาญา การกระทำของตนเองจึงเป็นการรักษาผลประโยชน์ของจังหวัด ไม่ใช่เรื่องทุจริต
"ผมจึงถือหลักตามหนังสือของจังหวัดสงขลาที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนจ่ายเงิน เพราะหากจ่ายเงินไปก่อนแล้วพบว่ามีการกระทำผิดในภายหลังจะเกิดปัญหาตามมา ซึ่งขณะนี้คดีค้างอยู่การพิจารณาของ ป.ป.ช.ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ไม่รู้สึกหนักใจอะไร เนื่องจากไม่มีเรื่องทุจริต เป็นการรักษาประโยชน์ให้จังหวัดสงขลา ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เช่น กรณีการซื้อรถพยาบาลตามมาตรฐานรถพยาบาล ซึ่งเป็นไปตามบัญชีนวัตกรรมของกรมบัญชีกลาง" นายนิพนธ์ กล่าว
ส่วนการจัดทำสวนสาธารณะมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ไม่ได้ร้องเรื่องทุจริต ตนเองนำสนามกอล์ฟ 90 ไร่ข้างโรงแรมสมิหลามาทำสวนสาธารณะแล้วมีการร้องเรียนว่าตนเองไม่ทำประชาพิจารณ์ เป็นการร้องไปที่ศาลปกครองกลาง ไม่เกี่ยวกับ ป.ป.ช. เช่นเดียวกับกรณีกล่าวหาว่าจัดสรรงบประมาณกระจุกตัวในพื้นที่ของตัวเองนั้นก็ไม่เป็นความจริง จัดสรรครบทุกพื้นที่ ทุกอย่างปฏิบัติตามข้อบัญญัติทั้งสิ้น ส่วนที่กล่าวหาว่านำงบไปอุดหนุนสโมสรฟุตบอลก็ไม่เป็นความจริง มีแต่การโอนเงินอุดหนุนให้สมาคมกีฬาซึ่งทุกอย่างก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ
นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีกล่าวหาว่าต้องลาออกจากนายก อบจ.สงขลาไปเป็นรัฐมนตรี ทำให้ต้องเสียงบประมาณนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตนเองอยู่ในตำแหน่งเกินวาระแล้ว เมื่อลาออกแล้วทางปลัดจังหวัดจะมารักษาการแทนจนกว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าทุกกรณีชี้แจงได้ ไม่มีปัญหาขาดคุณสมบัติความเป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรี
"เรื่องที่ร้องเรียนผมไม่ได้ปรากฏครั้งแรก แต่ทุกครั้งที่เข้าทำงานการเมืองก็จะมีการโจมตีมาโดยตลอด ผมกำลังสืบหาตัวว่า เอกสารที่ออกมามีที่มาที่ไปอย่างไร คนเผยแพร่ขอให้ระมัดระวัง ถ้าทำให้ผมเสียหายถือว่าเป็นการนำข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายไปจัดการเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อไป" นายนิพนธ์ กล่าว