ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดแถลงข่าวร่วมกับนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำกลุ่มอีสานตอนบน รวมทั้ง พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ส.ส.ภาคใต้ กลุ่มด้ามขวานไทย หลังการหารือในช่วงบ่ายวันนี้ โดยมีมติชัดเจนว่าทุกคนจะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นแกนนำ และมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น ขอให้ประชาชนคลายความกังวลได้ เพราะนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้บุคคลที่เหมาะสมเข้าไปดูแล
"เมื่อนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายชัดเจนว่าจะให้รัฐมนตรีท่านใดท่านหนึ่งมาดูแลพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้และ 11 จังหวัดภาคอีสานตอนบน ความเป็นห่วงของท่านผู้การสุชาติและท่านเอกราชก็สบายใจได้ในระดับหนึ่ง" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวยอมรับว่าได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร.ให้ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำกลุ่มอีสานตอนบน รวมทั้ง ส.ส.ภาคใต้ กลุ่มด้ามขวานไทย หลังจากกลุ่มดังกล่าวออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่
ทั้งนี้ จากการหารือกันแล้วสรุปว่าการจัดสรรตำแหน่งทางการเมืองให้กับ ส.ส.ที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี อาจจะได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ผู้ช่วยรัฐมนตรี หรือเลขานุการแทน โดยจะให้ พ.อ.สุชาติ รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ ส่วนนายเอกราชดูแลพื้นที่อีสานตอนบน สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นในอนาคตทางพรรคมีแนวทางจะมีการพูดคุยกันให้มากขึ้น รวมทั้งลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนสมาชิกพรรคด้วย
"ต้องยอมรับว่าเป็นพรรคการเมืองหน้าใหม่ จากหลายๆที่มาอยู่รวมกัน อาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันแต่ไม่แตกแยก เมื่อมีปัญหาที่ไม่เข้าใจกันก็มาคุยกัน ปัญหาก็หมดไป" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ด้าน พ.อ.สุชาติ กล่าวในการแถลงข่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา พปชร.ชนะการเลือกตั้งในภาคใต้ 13 เขต เนื่องจากประชาชนเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ได้ทุกเรื่องนั้น ตนเองขอยืนยันว่านายกรัฐมนตรีจะเข้าไปดูแลจะแก้ไขปัญหาต่างๆ
"ความห่วงใยของท่านทั้งหมดในเรื่องปัญหาต่างๆ ในเรื่องการท่องเที่ยวก็ดี เรื่องการคมนาคมก็ดี ราคายางพารา และราคาปาล์ม ผู้ใหญ่ของเราภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีจะดูแลตามนโยบายที่เราได้พูดคุยกับพี่น้องไว้ เพราะฉะนั้นวันนี้มีความพอดีของภาคใต้ที่จะทำการเมืองต่อไปภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" พ.อ.สุชาติ กล่าว
พ.อ.สุชาติ ปฏิเสธการออกมาเคลื่อนไหวว่า ไม่ได้กดดันเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี แต่มีความเป็นห่วงเรื่องราคาผลผลิตทางการเกษตรจึงอยากรู้แนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจนเท่านั้น ไม่เคยคิดถึงเรื่องตำแหน่ง เพราะยืนยันมาตลอดว่าขอทำงานอยู่ในพื้นที่ แต่หลังการเลือกตั้งแล้วทางพรรคไม่มีท่าทีใดๆ กับกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้เลย
ด้านนายเอกราช กล่าวว่า หลังจากได้หารือร่วมกันแล้วได้ข้อสรุปร่วมกันว่านายกรัฐมนตรีมีความเข้าใจเรื่องนโยบายที่จะขับเคลื่อนนโยบายที่รับปากไว้กับประชาชน โดยจะหาบุคคลที่เหมาะสมมาดูแลงานในแต่ละด้าน ขณะที่นายอุตตมะ สาวนายน หัวหน้าพรรคก็รับปากที่จะหาบุคคลที่มีความรู้มีความใกล้ชิดคุ้นเคยมาร่วมขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ส่วนจะเป็นใครนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี
"ในส่วนนี้พวกเราได้พูดคุยกันแล้วก็เห็นด้วย แต่ที่ออกมาพูดคุยสองครั้งที่ผ่านมา เหมือนกับพวกเราไม่มีที่ประสานที่จะขับเคลื่อนนโยบาย แต่ขาดตัวเชื่อมที่จะประสานทำความเข้าใจ" นายเอกราช กล่าว
นายเอกราช กล่าวว่า ได้สื่อไปถึงผู้ใหญ่ในพรรคแล้วว่าควรจะมีตัวแทนในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนเข้าไปเป็นฝ่ายบริหาร เพื่อช่วยขับเคลื่อนนโยบาย จะเป็นใครก็ได้ ไม่ได้เรียกร้องเพื่อตัวเอง
"ไม่ได้น้อยใจ แต่เป็นเรื่องการแบกความหวังของประชาชนไว้ แต่มีความเงียบและนิ่ง ซึ่งอาจมาจากเป็นยพรรคการเมืองใหม่ที่มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันน้อยไปหน่อย เพราะหลักทางการเมืองต้องอาศัยความใกล้ชิด" นายเอกราช กล่าว