นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่สามารถเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ เนื่องจากขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ว่า ครม.มีอำนาจและหน้าที่ในการบริหารประเทศต่อไปตามปกติจนถึงวันที่ ครม.ชุดใหม่จะเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน โดย ครม.และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะสิ้นสุดในวันนั้นเช่นกัน
"แม้ ครม.จะเหลือเพียง 17 คน แต่ก็ถือเป็น ครม.ที่ทำหน้าที่เต็มทุกประการ ไม่ใช่ ครม.รักษาการหรือชั่วคราว ดังนั้นจึงขออย่านำไปเปรียบเทียบกับสถานะของรัฐบาลที่ยุบสภา เพราะรัฐบาลชุดนี้มีบทบาทและอำนาจเต็มตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้"
ทั้งนี้ การประชุม ครม.ยังมีความจำเป็น โดยเฉพาะวาระที่จะต้องขอความเห็นชอบจาก ครม.ในเรื่องของการประชุมอาเซียนที่แต่ละหน่วยงานมีเรื่องนับร้อยเรื่องที่จะต้องนำไปประชุมร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งหากไม่นำเข้าที่ประชุม ครม. ก็จะไม่สามารถนำไปประชุมร่วมกับกลุ่มอาเซียนได้ อีกทั้งต้องนำผลการประชุมอาเซียนไปเข้าร่วมการประชุม G20 ที่ประเทศญี่ปุ่นในปลายเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน และย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2560 จึงสามารถประชุม ครม.ได้ปกติจนถึงขณะนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ก็ต้องมีเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตามปกติ แต่ก็จะมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพราะ ครม.กำลังจะหมดอำนาจหน้าที่
นายวิษณุ กล่าวว่า หากจะมีการตั้งกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฏรเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของ ครม.ชุดนี้ก็สามารถทำได้ เพราะสภามองว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม จึงอาจจะตั้งกระทู้หรือยื่นญัตติถามได้
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติด่วนอภิปราย 4 ข้อเรื่องคณะกรรมการสรรหาวุฒิสภา นายวิษณุ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ยังไม่ทราบว่าจะสามารถยื่นได้หรือไม่ หรือถ้ายื่นญัตติได้ขณะนี้ คสช.ยังไม่ได้มีการมอบหมายให้ตนเองไปชี้แจงแต่อย่างใด จึงต้องรอเวลาให้ถึงวันที่ยื่นญัตติก่อนจึงจะสามารถให้รายละเอียดได้ ซึ่งหาก คสช.มอบหมาย ตนเองก็พร้อมไปชี้แจง แต่หากผู้ที่จะยื่นญัตติต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้ตอบญัตติเอง ตนเองก็ไม่มีคำแนะนำใดๆ เนื่องจากการดำเนินการสรรหาดังกล่าวตรงไปตรงมาอยู่แล้ว