พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีตรวจสอบการถือครองหุ้นในบริษัทสื่อของ ส.ส.และ ส.ว.ว่า ขณะนี้มีการยื่นตรวจสอบทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งส.ว. ซึ่งเรื่องนี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องนำเข้าพิจารณาในสภาฯ และจากนั้นส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญตีความ ทั้งนี้ ตนไม่มีความกังวลใดๆ ทุกอย่างจะค่อยๆ มีข้อมูลออกมา ก็ต้องแก้ไขไปตามขั้นตอนของกฏหมาย
พร้อมกันนี้ ขอให้เชื่อมั่นในคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งจะถือเป็นคำวินิจฉัยเฉพาะบุคคล ไม่ได้ถือเป็นบรรทัดฐานสำหรับกรณีอื่นๆ โดยผลจะเป็นอย่างไรนั้น ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก
ส่วนกรณีที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ถูกสั่งฟ้องในคดีที่เกี่ยวกับการล้มประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่พัทยา เมื่อปี 2552 เนื่องจากอัยการนำตัวส่งฟ้องไม่ทัน ทำให้คดีขาดอายุความนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยยืนยันว่าไม่ได้เรื่องเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน เพราะเรื่องนี้ไม่สามารถตอบแทนกันได้ และหากตนเลือกตอบแทนคนบางคน จะอยู่ทำงานได้อย่างไร
พร้อมย้ำว่า ไม่ว่าจากพรรคไหน ตนก็ไม่สามารถตอบแทนหรือมีข้อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ได้ อีกทั้งตนไม่ใช่ศาลที่จะไปสั่งลดคดีความให้ใครได้ ตลอดจนคดีดังกล่าวไม่ใช่คำสั่งตามมาตรา 44 ด้วย ดังนั้นเชื่อว่าอัยการจะสามารถชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้ได้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ "บิ๊กโจ๊ก" ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า ไม่ทราบกระแสข่าวดังกล่าวมาจากไหน และใครเป็นผู้ปล่อยข่าว ซึ่งยืนยันว่าไม่มีคำสั่งย้ายกลับ และที่ผ่านมา เป็นการย้ายเพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นเรื่องนี้จบแล้ว ไม่ต้องไปหาเหตุผลอะไรอีก