อินโดนีเซียชี้เหตุลอบยิงปธน.ติมอร์ตอ.สะท้อนความมั่นคงในปท.เปราะบาง

ข่าวต่างประเทศ Monday February 11, 2008 13:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายฮัสซัน วิรัจดู รมว.ต่างประเทศของอินโดนีเซียกล่าวในวันนี้ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียรู้สึกกังวลต่อข่าวที่ว่ากลุ่มกบฏได้บุกเข้าโจมตีบ้านพักของนายโฮเซ รามอส-ฮอร์ตา ประธานาธิบดีติมอร์ตะวันออก และได้ยิงนายรามอส-ฮอร์ตาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่นายกรัฐมนตรีซานานา กุสเมา ก็ถูกลอบยิงเช่นกัน แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
"เหตุการณ์โจมตีอย่างอุกอาจครั้งนี้เกิดขึ้นโดยฝีมือของคนกลุ่มเดียวกัน ซึ่งนำโดยนายอัลเฟรโด รีนาโด จนเป็นเหตุให้ท่านประธานาธิบดีโฮเซ รามอส-ฮอร์ตาได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้เราได้รับรายงานว่ากระสุนลูกหนึ่งยังฝังอยู่ในร่างของท่านประธานาธิบดีโฮเซซึ่งเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ส่วนกระสุนลูกอื่นๆถูกยิงเจาะเข้าตามส่วนต่างๆของร่างกาย" นายวิรัจดูกล่าว
"เหตุการณ์โจมตีครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ด้านความมั่นคงในติมอร์ตะวันออกยังเปราะบาง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่อินโดนีเซียรู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการเสียชีวิตของผู้นำอย่างนายอัลเฟรโดจะทำให้กลุ่มกบฏที่เหลือจะยอมจำนน ซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่การยุติความขัดแย้งในติมอร์ตะวันออก" เขากล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สถานการณ์ในติมอร์ตะวันออกเริ่มไม่สงบตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2549 หลังจากรัฐบาลภายใต้การนำของอดีตนายกรัฐมนตรีมารี อัลคาติรี ได้ปลดทหารออก 600 นาย ซึ่งมาตรการดังกล่าวทำให้นายอัลเฟรโด รีนาโด ลุกขึ้นต่อต้านอย่างรุนแรง และนำไปสู่การปะทะกันอย่างดุเดือดจนเป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิต 23 คน และทำให้ประชาชน 150,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในติมอร์ตะวันออกเริ่มสงบลงหลังจากกองกำลังนานาชาติซึ่งนำโดยออสเตรเลียได้ส่งทหารเข้าประจำการในเมืองดิลี
ทั้งนี้ ติมอร์ตะวันออกซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสประมาณ 24 ปีนั้น เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอินโดนีเซียก่อนที่จะได้รับเอกราชในเดือนพ.ค.ปี 2545

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ