นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้กรอกแบบตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะยังไม่มีใครส่งมาให้ ทราบเพียงว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ส่งให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีกรอกประวัติและให้ส่งกลับมาภายในวันนี้
ทั้งนี้ตนเอง มองว่า ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีบางคนไม่น่าจะสามารถส่งกลับมาได้ทันภายในวันนี้ เนื่องจากต้องมีข้อมูลของคู่สมรสและบุตรด้วย ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ทาง สลค.จะได้ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง หลังจากได้ตรวจสอบเป็นการภายในไปแล้วในครั้งแรก โดยคราวนี้จะต้องนำข้อมูลที่เจ้าตัวส่งมาร่วมพิจารณาด้วย เพื่อความละเอียดมากขึ้น เพราะบางข้อมูลเป็นข้อมูลเฉพาะตัว เช่น การถือครองหุ้นในบริษัทต่างๆ
สำหรับการกรอกข้อมูลในส่วนของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ในปัจจุบันนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องมีการกรอกเอกสารใหม่เช่นกัน แต่ยังไม่ทราบว่าต้องกรอกวันไหน สาเหตุที่กรอกทีหลังเนื่องจากมีข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งรับทราบมาว่านายกรัฐมนตรีจะหารือเรื่องนี้หลังกลับจากการประชุม G20 ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย
สาเหตุที่ต้องให้เจ้าตัวกรอกแบบฟอร์มประวัติด้วยตนเอง พร้อมลงลายมือชื่อ เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน เพราะมีคุณสมบัติบางประการที่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าตัว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดได้ แม้จะเป็นการก้าวล่วงในความลับส่วนบุคคลก็ตาม โดยเจ้าตัวจะต้องลงลายมือชื่อในเอกสารทุกหน้า แต่คู่สมรสและบุตรจะลงลายมือชื่อเพียงหน้าเดียวเท่านั้น
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีผู้ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี 4 คนที่ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาคำร้องกรณีถือครองหุ้นสื่อว่า กรณีดังกล่าวอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่เป็นปัญหาในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ โดยในช่วงนี้ทั้ง 4 คนนั้นสามารถดำเนินการให้ถูกต้องได้ เช่น การโอนหุ้น เพราะในส่วนของรัฐมนตรีการถือครองหุ้นสื่อห้ามเฉพาะบุคคล แต่ไม่ห้ามในส่วนของคู่สมรสและบุตร แต่หากเป็นหุ้นสัมปทานอื่นๆ ของรัฐถือว่าห้ามทั้งตัวบุคคลและคู่สมรส
ส่วนข้อกังวลของฝ่ายการเมืองที่มาเป็นรัฐมนตรีแล้วต้องลาออกจาก ส.ส.นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้มีข้อบังคับทางกฏหมาย แต่เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะตกลงกันเอง และไม่ใช่เงื่อนไขพิจารณาคัดเลือกผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี